กรุงเทพฯ 29 เม.ย. – หุ้น PROEN เปิดเทรดวันแรกที่ 9.75 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท (+200%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.25 บาท/หุ้น
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า mai ยินดีต้อนรับบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี ในวันนี้ (29 เม.ย. 2564) โดย PROEN ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารครบวงจร รวมทั้งให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน PROEN และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่
1) ธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร (Information Communication and Technology: ICT) ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศด้านศูนย์ข้อมูล Data Center บริการอินเทอร์เน็ต ISP และ บริการคลาวด์ (Cloud Service)
2) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสาหรับงานโทรคมนาคมและสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Telecommunication and Infrastructure Service) โดยในปี 2563 รายได้กลุ่ม ICT : กลุ่มรับเหมา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 : 40 ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของธุรกิจ ICT ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์ ธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์ ธุรกิจการสื่อสารและสารสนเทศ ธุรกิจบันเทิง และธนาคารพาณิชย์ ส่วนธุรกิจรับเหมาที่เริ่มดาเนินธุรกิจเมื่อปี 2560 มีกลุ่มลูกค้าเป็นหน่วยงานภาครัฐ และผู้รับเหมารายหลัก
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROEN เปิดเผยว่า ราคาเปิดการซื้อขายวันนี้ที่ปรับสูงขึ้นกว่าราคา IPO บริษัทก็พึงพอใจ ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีตั้งแต่เสนอขาย IPO และในวันเทรดวันแรก พร้อมที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกคนเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน โดยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในการก่อสร้างอาคารศูนย์ข้อมูลและสำนักงานแห่งใหม่ ประมาณ 50 % ในพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับตู้ Server ได้ 645 ตู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจการให้บริการด้าน ICT และงานรับเหมาก่อสร้าง รวมถึง
ทั้งนี้ ภายหลังจากระดมทุนในครั้งนี้จะทำให้เพิ่มศักยภาพฐานทุน ยกระดับคุณภาพได้มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับกับคู่ค้าระดับโลก และบริษัทจะเร่งพัฒนาเพิ่มการให้บริการ Cloud Service และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Internet ระดับองค์กร SD-WAN รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันได้เริ่มเห็นสัญญาณแนวโน้มความต้องการที่สูงขึ้น และจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้เพิ่มในอนาคต รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและมองหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อขยายในตลาดต่างประเทศ ผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีก่อน เนื่องจากฐานรายได้บริการที่เพิ่มขึ้น จากการเร่งพัฒนาเพิ่มการให้บริการดังกล่าว ประกอบกับบริษัทมีโครงการที่รอส่งมอบ (Backlog) สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 334 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ทั้งหมดในปี 2564 โดย Backlog ดังกล่าวยังไม่รวมรายได้ประจำในปี 2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 260 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกตลาดอาเซียน โดยจะศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนก่อน ขณะเดียวกันมีการพูดคุยกับจีนและสิงคโปร์บ้างแล้ว
สำหรับสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีการเติบโตและเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่กลุ่มลูกค้า เช่น E-Commerce เกมส์ออนไลน์ ทีวี ทุกอุตสาหกรรมจะต้องเร่งปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์ รวมถึงภาครัฐหันมาใช้ดิจิทัลแทนการเก็บข้อมูลแบบกระดาษ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้บริการ Internet Data Center เพื่อเก็บฐานข้อมูลทุกชนิด ซึ่งเป็นการสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่า ใน 3 -5 ปีข้างหน้า เทรนด์นี้ยังอยู่ต่อเนื่อง . – สำนักข่าวไทย