ธปท. ระบุเศรษฐกิจ ก.พ.64 ดีขึ้น หลังโควิดคลี่คลาย

ธปท. 31 มี.ค. – ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์โควิดในประเทศคลี่คลาย มองมาตรการรัฐช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชนได้ดี


น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทยอยปรับดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายลง  โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคตามสถานการณ์แพร่ระบาดที่คลี่คลาย ประกอบกับภาคครัวเรือนได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ส่งผลให้การบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมทยอยปรับดีขึ้น

ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เร่งขึ้นจากการนำเข้าสินค้าทุน สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ดีขึ้นและการส่งออกที่อยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว อย่างไรก็ดี การลงทุนหมวดก่อสร้างหดตัวสูงขึ้นตามยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่กลับมาหดตัว สะท้อนกิจกรรมในภาคก่อสร้างที่ยังอ่อนแอ


ขณะที่การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 7.0 สอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังได้รับผลดีจากวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันกลับมาขยายตัวได้จากทั้งด้านราคาและปริมาณ ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลงตามการผลิตหมวดชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับหมวดยานยนต์กลับมาขยายตัวจากผลของฐานต่ำในปีก่อน

สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานต่ำในปีก่อน และจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางที่ขยายตัวสูงจากผลของฐานต่ำในปีก่อนที่ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ประกาศใช้ล่าช้า ขณะที่รายจ่ายประจำขยายตัวเล็กน้อยตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ อย่างไรก็ดี  ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยยังมีไม่มาก

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้น ตามอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในทุกหมวดหลัก โดยเป็นผลจากมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง สะท้อนจากสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานใหม่ในระบบประกันสังคมต่อผู้ประกันตนทั้งหมดที่ยังเพิ่มขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากขึ้นกว่าเดือนก่อน


อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เราชนะ” มีบทบาทในการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนโดยตรง และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 1/ 2564 มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่ต้องสะดุดเพราะการระบาดของโควิด – 19 ระลอกใหม่ ส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 1/ 2564 อาจจะขยายตัวไม่ดีเท่ากับปีที่แล้ว ขณะที่การเปิดเมือง และเปิดประเทศในช่วง ไตรมาสที่ 3/2564 และไตรมาสที่ 4/2564 จะเป็นแรงส่งที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท