พระนครศรีอยุธยา 27 มี.ค. – ชุดพญาเสือผนึกกำลังชุดพยัคฆ์ไพร เข้าตรวจยึดไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่ในโรงเลื่อยแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากแกะรอยติดตามรถบรรทุกไม้มาจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พบการแก้ไขบัญชีไม้ ขนาดของไม้ และจุดหมายปลายทางของไม้ ทั้งยังตรวจพบเครื่องจักรไม่ตรงกับบัญชีรายการ
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) และหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ร่วมกันเข้าตรวจสอบโรงเลื่อยไม้แห่งหนึ่ง หลังจากชุดพญาเสือแกะรอยติดตามไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่จากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง จนกระทั่งรถเป้าหมายขนไม้เข้ามาโรงเลื่อยจักรแห่งหนึ่งใน ต.บางระกำ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ได้พบกับชายคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนผู้เช่ากิจการ โดยเช่าโรงงานแปรรูปไม้ เพื่อทำการแปรรูปไม้จำหน่าย และรับจ้างแปรรูปไม้ให้กับบุคคลทั่วไป โดยนำเอกสารใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร สำเนาใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร แต่จากการตรวจสอบปรากฏว่า ที่ตั้งเครื่องจักรไม่ถูกต้องตามแผนที่และแผนผังแสดงที่ตั้งเครื่องจักรกล และตรวจพบเครื่องจักรที่ไม่ปรากฏในรายการเครื่องจักรที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ ซึ่งอยู่ในระหว่างแปรรูปไม้ 2 เครื่อง
เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบไม้ที่กองอยู่บริเวณกองไม้ด้านนอกอาคารโรงงาน พบไม้มะค่าโมง 2 ท่อน ปริมาตร 1.2069 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นของชายคนหนึ่งได้ว่าจ้างให้แปรรูป เมื่อตรวจสอบเอกสารการได้มาของไม้ กลับพบข้อพิรุธหลายจุด โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางของไม้ ระบุพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่โรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ขนาดของไม้ก็ไม่ตรงกับเอกสาร และไม้ก็ไม่ตรงกับภาพประกอบไม้ที่แนบรายงานมาอีกด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบไม้มะค่าโมงแปรรูปอีก 45 แผ่น ปริมาตร 13.605 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีการว่าจ้างให้แปรรูป เมื่อตรวจเอกสารหลักฐานพบว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก) ไม่ปรากฏการรับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าพนักงานที่ดินหรือเจ้าของที่ดิน นอกจากนี้ หนังสือสัญญารับจ้างบรรทุกไม้ท่อนจากที่ดินกรรมสิทธิ์ มีการใช้น้ำยาลบคำผิดและเขียนทับ ระบุว่า มีการขนย้ายไม้มะค่าจาก น.ส. 3 ก จาก จ.สกลนคร ไปยัง จ.ปทุมธานี แต่เหตุใดจึงมาอยู่ในโรงงานแปรรูปไม้แห่งนี้ และจากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า หนังสือสัญญาฉบับนี้มีการถ่ายเอกสารสีและเขียนทับ จำนวน 2 จุด คือ วันที่และหมายเลขทะเบียนรถยนต์บรรทุก และหนังสือรับตนเองมีรอยใช้น้ำยาลบคำผิดและแก้ไข 3 จุด คือ ขนาดความโต ขนาดความยาว และวันที่ และที่ผู้ใหญ่บ้านลงนามรับรอง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้และแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนของโรงงานแปรรูปไม้ ที่มีเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุญาตใช้แปรรูปไม้อยู่ภายในโรงงาน ถือว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2532) ออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ว่าด้วยการควบคุมการแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่ได้มอบเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป. – สำนักข่าวไทย