“อาคม” ยืนยันไทยมีวัคซีนฐานะการคลังเข้มแข็ง

กรุงเทพฯ 4  ก.พ. – “อาคม” ยืนยันไทยมีวัคซีนฐานะการคลังเข้มแข็ง รองรับปัญหาไวรัสกระทบเศรษฐกิจ ย้ำหนี้สาธารณะ/จีดีพี ร้อยละ 50 ยังต่ำกว่าหลายประเทศทั่วโลก 


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ ในเวทีสัมมนา “พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย” ว่า รัฐบาลต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤติในยุคโควิด-19 เมื่อไทยมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของอาเซียน การผลักดันให้จีดีพีโตร้อยละ 1 ต้องใช้พลังอย่างมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านรัฐและเอกชน ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานรายได้ลดลง  แต่ไทยยังมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง 2.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงถึงความมั่นคงของประเทศ และมีกำลังในการชำระหนี้ระยะสั้นได้

ในส่วนของฐานะทางการคลัง ได้รักษาวินัยทางการคลังอย่างเข้มงวด ทั้งการใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการหารายได้ภาษีทั้งภาครัฐแลเอกชน เมื่อต้องเงิน ผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จึงทำให้สัดส่วนหนี้สาธาณะต่อจีดีพีสูงร้อยละ 50 จากเพดานกำหนดไว้ร้อยละ 60 นับว่ายังต่ำกว่าอีกหลายประเทศพัฒนาแล้ว มีสัดส่วนหนี้สาธารณะร้อยเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เพราะทุกประเทศทั่วโลกขณะนี้ต้องใช้เงินกู้ และมีนโยบายผ่อนปรน มาฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในของตนเอง จึงนับว่าไทยยังมีวัคซีนทางพื้นฐานเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง


สำหรับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด มุ่งช่วยเหลือทั้งภาคเกษตร แรงงาน ผู้ค้ารายย่อย ผ่านโครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการ เราเที่ยวด้วยกัน ภาคแรงงานประกันสังคม ม.33 รวมกว่า 40 ล้านคน เมื่อรัฐบาลได้ยืดการชำระหนี้ของแบงก์รัฐ ลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยลดภาระให้กับประชาชน ขณะที่รัฐบาล ยังต้องเร่งรัดเดินหน้าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ แม้จะมีปัญหาไวรัสโควิด แต่การลงทุนชะลอไม่ได้ เพราะธนาคารโลกยังให้ความเห็นว่าการลงทุนภาครัฐของไทยยังต่ำอยู่  รัฐบาลจึงต้องเดินหน้าผลักดันการพัฒนาในเขตอีอีซี เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านการสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน การสร้างสนามบินอู่ตะเภา ท่าเรือมาตาพุด เพื่อเชิญชวนต่างชาติเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ขณะที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  ชี้แจงการวิจารณ์ฐานะการคลัง ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันส่งสัญญาณดีขึ้น จากรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนธันวาคม 2563 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นทั้งในด้านอุปสงค์จากต่างประเทศ และอุปสงค์ในประเทศ สะท้อนจากการส่งออกสินค้ากลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ที่ร้อยละ 4.7 ต่อปี   สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุด สำนักข่าว Bloomberg ได้ประเมินมุมมองอนาคตเศรษฐกิจของไทยปี 2564 ว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจเป็น อันดับ 1 ใน 17 ประเทศในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Market Economies) เพราะเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง ไทยเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก (อันดับที่ 9) ของประเทศที่มีระบบรักษาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพสูง นับว่าระบบสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพสูง


ส่วนของการจัดเก็บรายได้รัฐบาล เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยในช่วงปีงบประมาณ 2557-2563 การจัดเก็บรายได้รัฐบาลขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.07 ล้าน ล้านบาท เป็น 2.391 ล้านล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.1 ต่อปี แต่เมื่อได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิดในปี 63 รายได้จึงลดลง 

สำหรับเงินคงคลัง ยังเพียงพอรองรับการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ และการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ  ระดับเงินคงคลังปลายงวด ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 อยู่ที่ 473,001 ล้านบาท มากกว่าเงินคงคลังปลายงวด ณ สิ้นปีงบประมาณก่อนหน้า ถึงร้อยละ 49.5 หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563 จำนวน  8.1 ล้านล้านบาท เท่ากับร้อยละ 52.1 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง ไม่เกินร้อยละ 60 ขอจีดีพี  

อย่างไรก็ดี หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีความเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะผ่านจุดต่ำที่สุดในปี 2563 แล้ว และได้ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนได้จากเครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวดีขึ้นตามลำดับ ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และการค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำวัคซีนมาใช้ในปี 2564 นี้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ ค่อย ๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติ และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลก็จะมีแนวโน้มดีขึ้น ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะเร่งผลักดันและแก้ไขเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ ให้กลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยเร็ว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

“SIAM PARAGON THE MAGICAL COUNTDOWN CELEBRATION 2025”

สยามพารากอนคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่กำลังสนุกสนานกับบทเพลงจากเหล่าศิลปินดังที่มาเพิ่มความสุขด้วยบทเพลงและโชว์สุดอลังการ

ประชาชนเนืองแน่น ไหว้พระเขี้ยวแก้ว-สวดมนต์ข้ามปี

ประชาชนยังหลั่งไหลสักการะพระเขี้ยวแก้ว ทำบุญ รอสวดมนต์ข้ามปี ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยปีนี้กรมการศาสนาร่วมกับภาคีเครือข่ายและวัดทั้ง 76 จังหวัด จัดสวดมนต์ข้ามปี

ข่าวแนะนำ

ทยอยกลับกรุง

ถ.มิตรภาพ ช่วง อ.ปากช่อง รถหนาแน่นเต็มพื้นที่

วันหยุดเทศกาลปีใหม่วันสุดท้าย ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้วันนี้ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถช่วง อ.ปากช่อง หนาแน่นเต็มพื้นที่ แต่ยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ

ผลสำรวจยอดฮิต

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ 10 อันดับยอดฮิต – ยอดแย่ ปี 2567

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ 10 อันดับอะไรยอดฮิต – อะไรยอดแย่ แห่งปี 2567 มาดูกันว่าปีที่ผ่านมา มีอะไรที่ฮิตสุดๆ และมีอะไรที่ถูกจดจำในทางลบบ้าง

เคาท์ดาวน์ปีใหม่

ทั่วไทยเคาท์ดาวน์คึกคัก เฉลิมฉลองต้อนรับศักราชใหม่ 2568

ทั่วไทยคึกคัก เฉลิมฉลองเคาท์ดาวน์ต้อนรับศักราชใหม่ 2568 หลายพื้นที่จัดงานยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่แห่เข้าร่วมกิจกรรมคับคั่ง