นนทบุรี 2 ก.พ. – อธิบดีกรมการค้าภายในเฝ้าติดตามราคาพริกอย่างใกล้ชิด ย้ำหากพบจงใจขายแพงเกินสมควรจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่มีการนำเสนอเรื่องพริกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาปรับสูงขึ้น อยู่ที่เม็ดละ 1 บาท กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว พบว่า พริกที่จำหน่ายในจังหวัดนครราชสีมาและเป็นที่มาของข่าว เป็นพริกแดงเม็ดใหญ่ โดยราคาที่เป็นข่าวเป็นการนำพริกมาแบ่งบรรจุถุงขายปลีก สำหรับสถานการณ์การผลิตพริก แหล่งผลิตใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ซึ่งผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา จากข้อมูลของเกษตรกรผู้ปลูกพริก พบว่า ผลผลิตพริกฤดูกาลนี้ มีปริมาณลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวและแปรปรวน ทำให้มีผลต่อปริมาณพริกและการเจริญเติบโตของเมล็ดพริก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ปัญหาด้านสภาพอากาศได้คลี่คลายลงมากแล้ว เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายออกสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาพริกปรับลดลงจากเดือนธันวาคม 2563 และผลผลิตจะออกมาก กระจุกตัว ในช่วงปลายเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคาพริกปรับลดลงโดยลำดับ ทั้งนี้จากการตรวจสอบราคาจำหน่ายปลีก ณ จังหวัดอุดรธานี
อย่างไรก็ตาม และเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าราคาพริกได้มีการปรับราคาลดลง ทั้งในส่วนของปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศ และมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาในภาพรวมมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง และเข้าสู่ภาวะปกติแล้วทั้งในส่วนกรุงเทพและต่างจังหวัด และในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มอมพาณิชย์จังหวัดติดตามตรวจสอบภาวะการค้าปลีกพริกอย่างเข้มข้นใกล้ชิด เพื่อกำกับดูแลให้การตั้งราคาขายปลีกพริก สะท้อนต้นทุนที่ผู้ค้ารับซื้อมา และสอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตการตลาด ทั้งนี้ หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคา จะให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีที่จงใจขายแพงเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผลผลิตพริกยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ให้ดำเนินการเชื่อมโยงพริกจากแหล่งผลิต หรือตลาดกลางเข้าไปจำหน่ายโดยตรงต่อไป. – สำนักข่าวไทย