ใช้มาตรการดึงยางออกจากตลาดตรึงราคา

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. –  กยท. เดินหน้ามาตรการดึงน้ำยางออกจากตลาดช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน ซึ่งตลาดรับซื้อจะปิดทำการ รักษาเสถียรภาพราคา มั่นใจความต้องการใช้ยางยังคงมี ราคาสูงขึ้นแน่นอน

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงท้ายของการเปิดกรีด เกษตรกรชาวสวนยางสามารถกรีดยางได้มากขึ้น ทำให้ผลผลิตออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ราคายางจึงมีแนวโน้มลดลง ตลอดจนประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ชะลอการรับสินค้าของ เช่น จีนที่กำลังจะเข้าช่วงตรุษจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาวจะไม่รับสินค้า สหรัฐอเมริกาและกลุ่มสหภาพยุโรปที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตู้ขนส่งสินค้าตกค้างอยู่ในจีน กระทั่งเกิดปัญหาการขาดตู้ขนส่งสินค้า ทำให้เป็นอุปสรรคในการส่งออกเช่นกัน

กยท. จึงออกมาตรการกระตุ้นการดึงน้ำยางสดออกจากตลาดกว่า 200,000 ตัน/ปี ได้แก่ การกระตุ้นการซื้อน้ำยางสดมาแปรรูป โครงการการชะลอยาง เก็บสต๊อกยาง รวมถึงให้หน่วยธุรกิจของ กยท. เร่งหาผู้ซื้อต่างประเทศ ทำให้ราคายางช่วงในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับสูงขึ้น โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดตลาดเมื่อวันที่ 29 มกราคม อยู่ที่ กิโลกรัมละ 57.09 บาท สูงขึ้นกว่าวันที่ 25 มกราคมซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 55.90 บาท ราคาน้ำยางสดปิดตลาดเมื่อวันที่ 29 มกราคม อยู่ที่ กิโลกรัมละ 45 บาท สูงขึ้นกว่าวันที่ 25 มกราคมซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 42 บาท

ทั้งนี้เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีน ราคาอาจปรับตัวลดลงจากนี้เล็กน้อยซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นทุกปี เนื่องจากในประเทศจีนเป็นวันหยุดยาว ไม่มีการซื้อขายยางพารา แต่กยท. มั่นใจว่า ความต้องการน้ำยางของตลาดในประเทศและต่างประเทศยังคงมีสูง ขณะนี้มีผู้ซื้อจากหลายประเทศสนใจสั่งซื้อยางแปรรูปของไทย โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียที่สนใจสั่งซื้อน้ำยางสดและน้ำยางข้น เพื่อนำเข้าไปผลิตเป็นถุงมือยาง จีนส่งเสริมการใช้รถยนต์ในเมืองชนบท ดังนั้นมาตรการทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ราคายางในตลาดสูงและมีเสถียรภาพขึ้น

ที่ผ่านมากยท. สนับสนุนแทงค์เก็บน้ำยางสด พร้อมสารเคมีสำหรับยืดระยะเวลาเก็บรักษาน้ำยางสดให้คงคุณภาพไว้ได้นาน 1-2 เดือน ให้แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางนำร่องดำเนินการใน 3 จังหวัดคือ นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง โดยชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางนครศรีธรรมราช จำกัด เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำยางสด ซึ่งมีสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการน้ำยางสด 8 สถาบันได้แก่ สหกรณ์นิคมทุ่งสง จำกัด สหกรณ์การเกษตรเขาขาว สหกรณ์กองทุนสวนยางห้างส้าน จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางเทพทองพัฒนา จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางเขาน้อย จำกัด สหกรณ์กองทุนสวนยางควนเถียะ จำกัด และสหกรณ์กองทุนสวนยางเขาน้อยฉลองพัฒนา จำกัด โครงการนี้จะเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาราคาน้ำยางสดของประเทศต่อไป . – สำนักข่าวไทย