fbpx

ธปท.คาด GDP ไทยปี 63 ติดลบ 6.6% เตรียมปรับเป้าปีนี้ใหม่

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ธปท. คาดจีดีพีปี 63 ติดลบ 6.6% ส่วนปี 64 อยู่ระหว่างนำทุกปัจจัยเสี่ยงโควิด-19 รอบใหม่ การขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า เพื่อประเมิน ก่อนประกาศตัวเลขใหม่จากปัจจุบันคาดขยายตัว 3.2%


นางสาวพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ธปท. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะติดลบ 6.6% แต่ทั้งนี้ให้รอตัวเลขทางการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่จะประกาศในช่วงเดือน ก.พ.นี้ รวมถึงประมาณการปี 2564 ด้วย ซึ่งปัจจุบัน ธปท. คาดว่าจะขยายตัว 3.2% ส่วนจะปรับประมาณการหรือไม่นั้น ธปท. ขอติดตามผลกระทบการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ รวมถึงพัฒนาการของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐประกอบก่อนประกาศตัวเลขอีกครั้ง

สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค. 2563 ทยอยฟื้นตัวได้ แต่ยังไม่ทั่วถึง รวมถึงเริ่มเห็นผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในช่วงปลายเดือนต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะที่การส่งออกขยายตัวได้ตามอุปสงค์คู่ค้าที่ดีขึ้น การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวสูงขึ้นตามการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวตามรายจ่ายการลงทุน ด้านการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ


ขณะที่ไตรมาส 4/63 ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาขยายตัวได้ตามกำลังซื้อที่ทยอยฟื้นตัวในภาพรวมและแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ประกอบกับมีปัจจัยชั่วคราวจากวันหยุดยาวพิเศษ ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้น แต่กำลังซื้อของภาคครัวเรือนยังเปราะบางและมีความแตกต่างกันตามกลุ่มรายได้และพื้นที่

สำหรับการส่งออกสินค้าหดตัวน้อยลงตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวสอดคล้องกับอุปสงค์และความเชื่อมั่นของธุรกิจที่ดีขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาครัญขยายตัวตามรายจ่ายการลงทุน ส่วนหนึ่งจากผลของฐานต่ำในปีก่อนจากการประกาศใช้พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ล่าช้า

ด้านการส่งออกสินค้าเดือน ธ.ค.2563  ขยายตัวร้อยละ 4.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน โดยปรับดีขึ้นในเกือบทุกหมวดสินค้า สอดคล้องกับอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ทยอยฟื้นตัว ประกอบกับการฟื้นตัวของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกส่งผลให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ขยายตัวดี ด้านดุลการค้าเกินดุล 2,834 ล้านดอลลาร์ และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 693 ล้านดอลลาร์ สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ 0.27% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.19%


อย่างไรก็ตาม ในปี 2564  ธปท. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าการค้าโลก และการเชื่อมโยงนโยบายของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท

นายกฯ มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ รมต.

นายกรัฐมนตรี มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ เพราะกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว หลังถูกยื่นตรวจสอบซ้ำ ขอโปรดเกล้าฯ ทราบพร้อมกันใครนั่ง รมว.กต.คนใหม่ ไม่ขอพูดก่อน เป็นตามขั้นตอน

“ปานปรีย์” ออกจาก รพ. เข้ากระทรวงลา ขรก.

“ปานปรีย์” เข้ากระทรวงฯ เก็บของ-อำลาข้าราชการ บางคนหลั่งน้ำตา เจ้าตัวบอกลาชั่วคราว เรียกใช้งานได้ บอกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อคืน