“ศักดิ์สยาม” สั่ง ทล. ศึกษารายละเอียด แผน MR-Map 9 เส้นทางรวด

กรุงเทพฯ 28 ม.ค.- รมว.คมนาคม สั่งกรมทางหลวง ใช้กองทุนมอเตอร์เวย์ ศึกษาแนวพัฒนาแผนแม่บทร่วมมอเตอร์เวย์-ระบบราง (MR-Map) รวดเดียว 9 แนวเส้นทาง ลงลึกรายละเอียดพร้อมทำ PPP ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานการพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง หรือ MR-MAP โดยคณะทำงานการบูรณาการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้ง มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.,กรมทางหลวง ,กรมการขนส่งทางราง และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วม


โดยก่อนหน้านี้ได้มีการ รายงานผลการศึกษาแนวเส้นทางระเบียง MR-Map จำนวน 9 เส้นทาง แบ่งเป็นแนวเหนือ-ใต้ (N-S) จำนวน  3 เส้นทาง และแนวตะวันออก-ตะวันตก (E-W) จำนวน 6 เส้นทาง โดยคณะทำงานได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเป็นเจ้าภาพหลักในการจ้างศึกษาจัดทำแผน MR-Map และดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จภายในปี 2564

โดยเบื้องต้นกรมทางหลวง ได้แจ้งถึงการ ดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาแนวเส้นทาง ตามเป้าหมาย เพื่อให้มีการใช้เขตทางรวมกัน ระหว่างมอเตอร์เวย์ และโครงการรถไฟระบบต่างๆ โดยมีการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา และใช้เงินกองทุนมอเตอร์เวย์ ซึ่งผลการศึกษาจะแล้วเสร็จ นำไปสู่การออกแบบรายละเอียด แผน ปฏิบัติการ (Action Plan) เตรียมจัดทำการลงทุนแบบ PPP ในโครงการนำร่องในเดือนกันยายน 2564 สำหรับ 4 แนวเส้นทาง ที่มีความพร้อม เริ่มจากแนว ระนอง-ชุมพร ระยะทาง 120 กม. ที่มีการศึกษาแนวเส้นทางเกี่ยวกับการพัฒนาแลนด์บริดจ์ไว้อยู่แล้ว


อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ในเรื่องของการศึกษาเพื่อนำไปสู่การออกแบบรายละเอียดและเตรียมดำเนินการลงทุนแบบ PPP นั้น. เมื่อกรมทางหลวงยืนยันความพร้อมของเงินงบประมาณจากกองทุนฯในการศึกษา ก็ขอให้ดำเนินการศึกษารายละเอียดโครงการไปทั้ง 9 แนวเส้นทางครั้งเดียว เมื่อการศึกษาทยอยแล้วเสร็จในปี 2564 จะได้ทยอยทำการลงทุนแบบ PPP ไปทีละเส้น เพื่อให้เกิดโครงการตามแผน MR-Map อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

“ การดำเนินการโครงการนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ที่จะให้มีการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่มีระเบียบ มีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนซ้ำซ้อน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ทิ้งใครภูมิภาคใดไว้ข้างหลัง ดังนั้น ขอให้กรมทางหลวงเดินหน้าศึกษาไปเลย ทั้ง 9 แนวเส้นทาง เมื่อแล้วเสร็จจะได้ทยอยลงทุน ทำ PPP ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นไป” นายศักด์สยามกล่าว

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้กำชับ เรื่องการศึกษาแนวเส้นทางให้มีการทำความเข้าใจกับชุมชน2 ข้าง ตลอดแนวเส้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการต่อต้านจากชุมชนเหมือนบางโครงการที่มีในอดีต รวมทั้งในอนาคตเมื่อการศึกษา-ออกแบบรายละเอียดแล้วเสร็จ โครงการเหล่านี้ จะต้องมีการจัดทำโรดโชว์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในโครงการณ์ที่นักลงทุนสนใจด้วย


สำหรับแนวเส้นทาง MR-Map 9 เส้นทาง ที่จะใช้งบประมาณจากกองทุนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง มาศึกษา และศึกษาถึงขั้นตอนดำเนินการขั้นตอนการให้เอกขนร่วมลงทุน (PPP) แบ่งเป็นเส้นทางเหนือลงใต้จำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางเชียงราย-สงขลา, เส้นทาง หนองคาย-ท่าเรือแหลมฉบัง และเส้นทางบึงกาฬ-สุรินทร์ รวมระยะเส้นทางรวมทั้งหมด 2620 กิโลเมตร ,

ส่วนเส้นทางตะวันออกไปยังตะวันตก จำนวน 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,380 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย เส้นทางตาก-นครพนม , เส้นทาง กาญจนบุรี-อุบลราชธานี, เส้นทาง กาญจนบุรี-สระแก้ว, เส้นทาง กาญจนบุรี-ตราด และเส้นทาง ชุมพร-ระนอง และ เส้นทางภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี

ส่วนเส้นทาง ที่กรมทางหลวง ยืนยันความพร้อม ทำ PPP ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป คือ 4 แนวเส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทาง ชุมพร-ระนอง , 2. เส้นทาง ชลบุรี(ท่าเรือแหลมฉบัง)-นครราชสีมา , 3. เส้นทางนครราชสีมา-อุบลราชธานี ,4. เส้นทาง นครราชสีมา-ขอนแก่น- หนองคาย และ เส้นทางนครราชสีมา-ขอนแก่น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย