กรุงเทพฯ 7 ม.ค. – เอเซีย พลัส ประเมินภาพรวมการลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 คาด Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่หนุนตลาดหุ้นไทย ต้องติดตาม COVID-19 ระลอกใหม่
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจปี 2564 คาดจะพลิกกลับมาฟื้นตัว 4.1% จากฐานที่ต่ำและทุกปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2564 ประเมินไว้ที่ 7.19 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 65.04 บาท/หุ้น เติบโต 38.1% พร้อมมองว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ในไทยในรอบนี้ถือว่ารุนแรงกว่ารอบแรกปี 2563 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการในการควบคุมโรค โดยต้องติดตามระยะเวลาว่าจะยาวนานเพียงใด ซึ่งกระทบโดยตรงต่อกิจกรรมเศรษฐกิจ และเป็นปัจจัยกดดันจีดีพีปีนี้และกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2564 ส่วนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เชื่อว่ารัฐบาลยังต้องมีการขับเคลื่อนต่อเนื่องและต้องเพิ่มน้ำหนัก รวมถึงวงเงินให้สูงขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องการก่อหนี้ซึ่งถูกกำหนดเป็นวินัยการคลังไว้ที่ 60% ของจีดีพี คิดเป็นมูลค่าเงินกู้ที่คงเหลือกู้ได้อีก 1.7 ล้านล้านบาท นับจากสิ้นเดือน ต.ค. 2563
ด้านภาพระยะกลาง-ยาวของปี 2564 เชื่อว่าจะเป็นปีแห่ง Fund Flow เพราะยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าไทยหลายช่องทาง ทั้งการลงทุนทางตรง อาทิ เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) แรงหนุนจากนโยบายของนาย Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่ผลักดันการขึ้นภาษีนิติบุคคล และค่าจ้างขั้นต่ำในสหรัฐฯ ส่วนการลงทุนทางอ้อม (การลงทุนผ่านสินทรัพย์ทางการเงิน) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ช่วยให้เกิดการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากพันธบัตรมาสู่ตลาดหุ้นมากขึ้นในระยะถัดไป รวมถึงค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า หนุนให้เกิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น รวมถึง Liquidity ที่ล้นระบบ (เงินฝากสูงกว่า Market Cap ตลาดฯ) และรอจ่อเข้าตลาดหุ้น ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มน้ำหนักในตลาดหุ้นอีกแรง
ทั้งนี้ประเมินเป้าหมาย SET Index ที่ 1,550 – 1,626 จุด ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในช่วงต้นปี 2564 แนะนำหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง และได้แรงหนุนจาก Fund Flow อย่าง PTT, KBANK, ADVANC, GULF และหุ้นปันผลสูง AP, DCC ในทางตรงกันข้ามหุ้นที่ขยับขึ้นมาแรงจนเกินมูลค่าทางพื้นฐาน อย่าง MAJOR, DELTA ต้องระมัดระวังในการซื้อขาย หรือเก็งกำไร
นายภาดร สุขสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์การลงทุนและผลิตภัณฑ์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในปี 2564 ยังไม่ชัดเจนนัก แม้จะเปิดปีมาพร้อมกับความหวังเรื่องวัคซีนที่คืบหน้า แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรอบสอง หรือสามในบางประเทศก็ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องตามไปด้วย โดย ยังให้น้ำหนักการลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่ที่อเมริกาและจีน และให้คงสภาพคล่องในพอร์ตราว 10-20% เพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นภายหน้า หลังราคาปรับตัวขึ้นร้อนแรง ปีนี้อาจเป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่ภายใต้วิกฤตมักสร้างโอกาสลงทุนใหม่ๆ ให้กับนักลงทุนได้เสมอ . – สำนักข่าวไทย