กสทช.จับมือหลายหน่วยงาน พัฒนา Mobile ID


กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- สำนักงาน กสทช. จับมือ ทีโอที ดีแทค ไตรเน็ต สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตลาดหลักทรัพย์ และเครดิตบูโร ต่อยอดพัฒนาระบบ Mobile ID หรือบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกบริการประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (7 ธ.ค.)  สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือที่เรียกในชื่อ Mobile ID หรือ “แทนบัตร” ณ สำนักงาน กสทช.


นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ และ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. ได้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ “แทนบัตร” หรือ Mobile ID ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและมีการทดสอบทดลองขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ต่อมาสำนักงาน กสทช. ได้ขยายความร่วมมือเพิ่มเติมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำระบบ “แทนบัตร” หรือ Mobile ID นี้ ไปพัฒนาต่อและประยุกต์ใช้ภายใต้ภารกิจต่าง ๆ ของแต่ละหน่วยงาน และวันนี้สำนักงาน กสทช. พร้อมแล้วที่จะขยายการทำงานร่วมกันเพิ่มเติมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เพื่อทำการทดสอบทดลองในระยะ Sandbox อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถให้ ประชาชนร่วมทดลองการใช้งานในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ซึ่งปัจจุบัน สำนักงาน กสทช. ได้ร่วมทำงานกับ ETDA และหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อพิจารณาการกำหนดมาตรฐานของการให้บริการในระยะทดสอบทดลองนี้ ด้วย โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งาน Mobile ID ในระยะทดสอบได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า

นายณัฐวุฒิ ศาสตราวาหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า TOT เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนา Digital ID Platform ของประเทศไทย โดย Mobile ID ถือเป็นหนึ่งทางเลือก ที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมควรร่วมกันพัฒนาเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการให้บริการกับผู้ใช้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ การร่วมโครงการนี้ TOT จะสามารถต่อยอดพัฒนาให้ลูกค้า TOT สามารถใช้บริการกับหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ด้วย และมีความเชื่อว่าจะสามารถนำไปพัฒนาการให้บริการของ TOT ในช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น เช่น การซื้อ SIM Card การย้ายค่ายเบอร์เดิมโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ศูนย์บริการ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มจุดให้บริการได้ทั่วประเทศโดยใช้ช่องทางออนไลน์

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่าดีแทคสนับสนุนรัฐบาล และ กสทช. ในการเริ่มพัฒนา “การยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล” ให้ประสบความสำเร็จและใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจ ดิจิทัล  ซึ่งทางบริษัทมีแผนผลักดันระบบ Mobile ID ให้ใช้งานได้สมบูรณ์ในบริการต่าง ๆ เพื่อผู้ใช้งานจำนวนมาก และพัฒนาระบบจนมั่นใจในการรักษาทุกธุรกรรม ออนไลน์ให้ปลอดภัย  


นางสาวกมลวรรณ ศีลาภิรัติ รองผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ( DPA  )กล่าวว่า โครงการนี้ DPA จะดำเนินการพัฒนาระบบให้สามารถเชื่อมต่อกับ Mobile ID เพื่อต่อยอดพัฒนาให้ลูกค้า DPA สามารถใช้บริการ ของ DPA ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยในระยะแรกจะเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับการขอทราบข้อมูลต่างๆผ่าน ช่องทางออนไลน์ของ DPA และในอนาคตจะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานอื่นๆ ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ทำความตกลงร่วมมือกันไว้แล้วต่อไป

นายถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนา Digital ID Platform ของประเทศไทย ซึ่ง Mobile ID นับเป็นนวัตกรรม ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับใช้ยืนยันตัวตนแบบไร้สัมผัส ตอบโจทย์ชีวิตวิถีใหม่ New Normal ของคนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถเชื่อมต่อกับ Mobile ID ของสำนักงาน กสทช. เพื่อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในตลาดทุนและประชาชนให้ทำธุรกรรมได้อย่าง ปลอดภัย สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ ให้ตลาดทุนเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน “SET.Make it Work for Everyone” ทั้งนี้ ในระยะแรกจะเป็นการ อำนวยความสะดวกสำหรับการให้บริการเปิดบัญชีลงทุน การจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุน  และในอนาคตจะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ทำความตกลงร่วมมือกันไว้แล้วต่อไป

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวว่า Mobile ID จะสามารถนำมา ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการให้บริการของเครดิตบูโร ได้เป็นอย่างดี ระยะแรกจะเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับการขอตรวจสอบเครดิตสำหรับ รายย่อย และในอนาคตจะขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ทำความตกลงร่วมมือกันไว้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต