กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- ก.พลังงานเร่งแผนของขวัญปีใหม่ รอลุ้น ตรึงราคาแอลพีจี ด้าน กลุ่มผีเสื้อ วอนลดค่าการตลาดน้ำมัน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าได้ขอให้ ทุกหน่วยงาน ใน ก.พลังงาน ช่วยเสนอแนวคิดของขวัญปีใหม่แก่ประชาชาชน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความสุขด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การลดค่าครองชีพประชาชน หรืออื่นๆ ซึ่งของขวัญที่เด่นชัดไปก่อนหน้านี้คือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้ประกาศ ลดค่าไฟฟ้า อัตโนมัติหรือ Ft เดือน ม.ค.-เม.ย. 64 ลดลง2.89 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.61 บาทต่อหน่วย ส่วนจะมีการต่ออายุการลดราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ที่มาตรการปัจจุบันจะสิ้นอายุ ธ.ค.63 หรือไม่ ก็ต้องรอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานหรือ กบง. ในเดือนนี้ พิจารณาเพราะว่าใช้เม็ดเงินอุดหนุนที่สูงขึ้นอาจะส่งผลกระทบต่อฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปัจจุบันตรึงราคาแอลพีจีอยู่ที่ 14.37 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นการตรึงราคาเพื่อลดผลค่าครองชีพจากผลกระทบโควิด-19 ตั้งแต่ 24 มิ.ย.-31 ธ.ค.63 ส่วนเรื่องค่าการตลาดน้ำมันจะมีการลดราคาตามข้อเสนอของกลุ่มผีเสื้อกระพือปีกหรือไม่นั้น ในขณะนี้กำลังหารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการหารืออีกครั้งในเดือนนี้
นอกจากนี้ กบง.ยังเตรียมพิจารณา เงื่อนไขทีโออาร์ เพื่อเปิดรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชน 15 เมกะวัตต์ และหลักเกณฑ์การเปิดส่งเสริมเงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปี 64 วงเงิน 6,500 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะเปิดประกาศให้สมัครได้ภายในเดือน มกราคม 64 ซึ่งในส่วนของกองทุนอนุกรักษ์ กำลังหารือกับกระทรวงมหาดไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการอนุมัติเห็นชอบโครงการระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ อนุรักษ์พลังงานได้อย่างรวดเร็ว
“ของขวัญปีใหม่ จะเป็นอะไรจะเร่งสรุปในเร็วๆนี้ โดยให้ทุกหน่วยงานแจ้งเรื่องมาเพื่อร่วมสร้างความสุขแก่คนไทย หลังจากที่ปี 63 นี้เป็นปีที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 แต่ในส่วนของมาตรการตรึงราคาแอลพีจีหรือไม่นั้นหลังจากได้ตรึงราคามานานถึง 9 เดือน ดดยเริ่อมลดราคาลงมา 3 บาท/กก. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 ทำให้ ราคาตรึงอยู่ที่14.37 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ก็ยอมรับว่าใช้เงินสูงเงินไหลออกค่อนข้างแยอะก็รอดูว่า กบง.จะมีมติอย่างไร” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่า กบง.และ คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กำหนดวงเงินดูแลราคาแอลพีจี ไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งฐานะล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 63 กองทุนน้ำมันฯดูแลราคาแอลพีจี ติดลบไปแล้ว8,701 ล้านบาท ส่งผลฐานกองทุนน้ำมันฯสุทธิเหลืออยู่เพียง 28,474 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีน้ำมันมีฐานะที่ 37,175 ล้านบาท โดยบัญชีรายเดือนนั้น ในขณะนี้ไหลออกราว 1,300 ล้านบาท จากการอุดหนุนแอลพีจีเดือนละเกือบ 500 ล้านบาท อุดหนุนน้ำมันเดือนละเกือบ 800 ล้านบาท ที่เป็นเช่นนี้จากราคาปิโตรเลียใตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว และตลาดตอบรับการพัฒนาวัคซีนโควิ-19 และ โอเปกพลัสร่วมมือ ลดกำลังผลิตน่ำมันต่ออีกในไตรมาสแรกปี 64 ที่ 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในขณะที่การบริโภคในประเทศเริ่มกลับเข้าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผล ยอดใช้ทั้งแอลพีจี น้ำมันดีเซลพื้นฐาน บี 10 ก็เพิ่มขึ้น รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนอื่นๆ โดยหากไม่ปรับเปลี่ยนราคาจำหน่ายขายปลีก หรือ ไม่ปรับขึ้นเงินกองทุนฯในส่วนที่จะทำให้รายได้กองทุนฯเพิ่ม ก็จะกระทบต่อฐานะกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งต้องรอ กบง.ว่าจะตัดสินใจอย่างไร –สำนักข่าวไทย