กรุงเทพฯ 16 พ.ย. –“สุพัฒนพงษ์”ชวนคนไทย ภูมิใจ จีดีพีไทยฟืนตัวดีเกินคาด เผยมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ย้ำปีหน้าตะลุยชวนต่างชาติลงทุน มั่นใจปีหน้านำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจรมากกว่า 4-5 แสนตัน/ปี ด้าน ปตท.ย้ำยอดขายพลังงานดีขึ้นเตรียมนำคาดกาณ์จีดีพีใหม่ประเมินการลงทุน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การที่ตัวเลขเศรษฐกิจ(จีดีพี)ไทยประกาศออกมา ในวันนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)นับว่าดีกว่าคาดการณ์ โดยประเมินว่า จีดีพีของไทยทั้งปี 63 จะติดลบเพียงร้อยละ 6 ว่า ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่น่าดีใจ หรือ เสียใจ แต่เป็นเรื่องที่คนไทยต้องภาคภูมิใจ ว่า คนไทยร่วมมือกันทำได้ ในการพลิกฟื้นเศรษฐบกิจให้ดีกว่าคาดการณ์เดิม จากเดิมที่หลายฝ่ายประเมินว่าจีดีพีไทยทั้งปีนี้กระทบหนักจากโควิด-19 จะติดลบร้อยละ 9-12 แย่สุดในอาเซียน เพราะพึ่งพารายได้จากการส่งออกและท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่สิ่งที่คนไทยร่วมมือกันกระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่ายในประเทศ การท่องเที่ยวร่วมกัน ก็เห็นได้ว่าเศรษฐกิจดีขึ้น และจีดีพีไม่ได้ตกต่ำที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะเห็นได้ว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เศรษฐกิจจะติดลบกว่าไทย
ส่วนกรณีที่ สภาพัฒน์ เป็นห่วงการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐที่อาจเบิกจ่ายล่าช้า โดย ปี64 จะต้องได้ถึงร้อยละ 98 ของงบประมาณรายจ่ายนั้น นายสุพัฒนพงษ์ มองว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำ และก็มีหน้าที่ต้องเร่งรัด เพื่อมาเสริมรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและส่งออกที่ยังหดตัว อย่างไรก็ตาม ในปี2564 เชื่อว่า จีดีพีทั่วโลกก็น่าจะดีขึ้น ถ้าไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ และการส่งออกก็น่าจะดีขึ้น และ ปี 64 ต้องเป็นปีที่จะต้องเร่งดึงดูดการลงทุน ต้องปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น เมื่อไทยมีของดี ทั้งมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ทั่วโลกชื่นชม มีประชากรที่ที มีจีดีพีที่ฟื้นตัวได้ดี มีความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานหลังใช้งบลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แ ดังนั้น ต้องเร่งทำงานเชิงรุก สร้างความเชื่อมั่นของไทยให้ดีขึ้น ซึ่งสิทธิประโยชน์ เพื่อดึงดูดการลงทุนก็จะมีการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เพิ่มขึ้น
“ไตรมาส 3/63 ที่ดีขึ้นGDP ติดลบเพียงร้อยละ 6.4 เป็นเพราะทุกฝ่ายร่วมไม้ร่วมมือกันกับรัฐบาลก็ทำกันมาจนถึงวันนี้ และก็จะต้องทำต่อไป โดย ต้องเปิดประเทศเพิ่มขึ้น รับทั้งท่องเที่ยวและลงทุน และรัฐบาลก็กำลังพิจารณา จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ผ่านมามีทั้งมาตรการคนละครึ่ง มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากที่สภาพัฒน์คาด จีดีพีไทยปี 64จะขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 ก็นับว่าเป็นอัตราที่ดีขึ้นสูงกว่าที่ กลุ่ม ปตท.ใช้ประประเมินความต้องการใช้พลังงานในปีหน้า ดังนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ความต้องการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี ตลาดจรจะสูงกว่าที่ ปตท.ประเมินว่าจะนำเข้า 4-5 แสนตันในปีหน้า
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า จีดีพีที่ดีขึ้นกว่าคาดการณ์ก็เห็นได้ว่าการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวดีขึ้น ส่วนจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของ ปตท.มากน้อยแค่ไหน คงต้องดูตัวเลขอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ยอดใช้น้ำมันในขณะนี้ดีขึ้นมาก และ จาก กลุ่ม ปตท.จะนำการประเมินจีดีพีใหม่ของ สภาพัฒน์ มาใช้สำหรับการประเมินการลงทุนในกรอบการลงทุน 5 ปี ที่จะดำเนินการ ปรับแผนในเดือน ธันวาคมนี้-สำนักข่าวไทย