กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – ปลัดเกษตรฯ เผยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 16 จังหวัด พื้นที่เกษตรเสียหาย 2.8 แสนไร่ เร่งระบายน้ำ จ.นครราชสีมาลงลำน้ำมูล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทันทีที่น้ำลดให้ทุกหน่วยงานเข้าสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟู
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 16 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ กำแพงเพชร อุทัยธานี ลพบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี เพชรบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสตูล สำหรับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักต่อเนื่องมากที่สุด คือ นครราชสีมา ได้รับผลกระทบ 18 อำเภอ ได้แก่ ปากช่อง สูงเนิน ชุมพวง วังน้ำเขียว พิมาย เมือง จักราช ลำทะเมนชัย ขามสะแกแสง โนนไทย โนนสูง แก้งสนามนาง บัวใหญ่ ด่านขุนทด ปักธงชัย โชคชัย เทพารักษ์ และขามทะเลสอ ปัจจุบันน้ำจากลำเชียงไกรเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ผิวถนน และพื้นที่เกษตร ชุมชนบ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง ระดับน้ำสูง 5-10 ซม. ส่วนเหตุการณ์น้ำกัดเซาะรอยต่อของทางระบายน้ำล้นฉุกเฉินจนเกิดความเสียหาย น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่บ้านลำประโคน เขตเทศบาลตำบลลำนางแก้ว 40 ครัวเรือน ขณะนี้สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยน้ำจะหลากไปรวมกับลำน้ำลำพระเพลิง แต่จะไม่มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
สำหรับระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำบ้านซึม อ.พิมาย บ้านโนนสะอาด อ.โชคชัย บ้านด่านกะตำ อ.เฉลิมพระเกียรติสูงกว่าตลิ่ง 50-70 เซนติเมตร แนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งกรมชลประทานจะใช้ประตูระบายน้ำ (ปตร.) คนชุม ต.ในเมือง ปตร.อัษฎางค์ ข่อยงาม และกันผม อ.เมืองระบายน้ำออกจาก อ.เมืองไปลงแม่น้ำมูล
จ.อุบลราชธานี น้ำในลำน้ำมูลเริ่มเอ่อเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองสูง 60 –70 ซม. ซึ่งสำนักงานชลประทานที่ 7 นำกระสอบทราย 500 ใบ วางเป็นแนวกั้นน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่องในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานีแล้ว ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำบ้านสตึก อ.สตึก ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 22 ซม. แต่แนวโนม้เพิ่มขึ้น ที่ จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำสถานีวัดน้ำ อ.กบินทร์บุรี สูงกว่าตลิ่ง 23 ซม. แนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้ในพื้นที่แล้ว
ด้าน จ.เพชรบุุรี ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำสะพานท่าเกวียน อ.แก่งกระจานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีตัดยอดน้ำหลากให้เข้าสู่ระบบชลประทานแล้วควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชร พร้อมนำเครื่องจักร-เครื่องมือประจำจุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รวมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรีติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ที่ จ.สระแก้ว ระดับน้ำสถานีวัดน้ำบ้านเขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ และบ้านสระขวัญ อ.เมือง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการชลประทานสระแก้วติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำบริเวณสะพานบ้านแก่งสีเสียด ต.สระขวัญ อ.เมือง และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ระดับน้ำทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วัน
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ รายงานว่า มีพื้นที่เกษตรด้านพืชได้รับความเสียหาย 12 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา สตูล และตรัง เกษตรกร 75,834 ราย เนื้อที่ 281,964 ไร่ แบ่งเป็น นาข้าว 116,099 ไร่ พืชไร่ 120,043 ไร่ พืชสวนและอื่น ๆ 45,822 ไร่ ด้านประมงได้รับผลกระทบ 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี และตรัง เกษตรกร 203 ราย บ่อปลาเสียหาย 181 ไร่ กระชังปลา 100 ตารางเมตร และด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกร 988 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 77,421 ตัว แปลงหญ้า 60 ไร่
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ สั่งการให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำทุกพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด เบื้องต้นให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้าช่วยเหลือได้แก่ กรมปศุสัตว์ดูแลสุขภาพสัตว์ ช่วยขนย้ายสัตว์ในกรณีที่จำเป็น มอบเสบียงอาหารสัตว์ หลายหน่วยงานนำอาหารและน้ำเข้าช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัย อีกทั้งย้ำว่าให้เข้าสำรวจความเสียหายของพื้นที่เกษตรทันทีที่น้ำลดแล้วรายงานมายังกระทรวงฯ เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย