ขนส่งฯ แนะวิธีเลือกรถโดยสารเช่าเหมา

กรุงเทพฯ  12 ต.ค. – กรมการขนส่งทางบกตื่น! เตือนวิธีเลือกรถโดยสารเช่าเหมาแบบมีมาตรฐานก่อนเดินทาง เพื่อความปลอดภัย ทั้งคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง-ติดตั้งระบบ GPS Tracking ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถโดยสารเช่าเหมา โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงเทศกาลกฐินที่ประชาชนนิยมเช่าเหมารถตู้โดยสารและรถบัสโดยสารขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศเข้มงวดการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารไม่ประจำทางและรถโดยสารประจำทางมากขึ้น พร้อมให้คำแนะนำประชาชน เพื่อให้การเดินทางด้วยรถโดยสารเช่าเหมามีความปลอดภัย

ทั้งนี้ ประชาชนควรมีการวางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเดินทางเวลากลางคืน เลือกเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) จดทะเบียนถูกต้อง มีการจัดทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ควรเลือกใช้รถที่มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารและสภาพเส้นทาง เช่น หากต้องเดินทางในเส้นทางที่มีความโค้งหรือลาดสูงชันควรใช้รถโดยสารชั้นเดียว ใช้บริการผู้ประกอบการขนส่งที่ได้มาตรฐาน และไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง


ด้านผู้ประกอบการ ต้องตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถเพื่อความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ตัวรถต้องมีสภาพความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ ผ่านการตรวจสภาพรถและชำระภาษีถูกต้องตรงตามระยะเวลา ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ได้แก่ เข็มขัดนิรภัย ประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกครบถ้วน และกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่างปลอดภัย

นายธานี กล่าวว่า ในส่วนของพนักงานขับรถก่อนออกเดินทางต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดื่มสุราโดยปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด ต้องเปลี่ยนคนขับเมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะขับรถต่อไปอีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ที่สำคัญขณะเดินทางผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดระยะเวลา หมั่นสังเกตอาการพนักงานขับรถ หากมีอาการอ่อนล้าหรือง่วงให้หยุดพักหรือเปลี่ยนคนขับ กำชับไม่ให้ผู้ขับรถขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยสามารถติดตามและตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถโดยสารได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS ของกรมการขนส่งทางบก หากคนขับฝ่าฝืนกฎหมายหรือขับรถประมาทเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้ตักเตือนและแจ้งให้ผู้ประกอบการรับทราบเพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งแจ้งมายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 หรือแอปพลิเคชัน DLT GPS ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทางด้วย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน