ก.คลัง 28 ก.ย. – คลังพบสัญญาณเศรษฐกิจผงกหัว หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ลุ้นนโยบายจ่ายคนละครึ่ง เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ ช่วยเติมเงินหมุนเวียนในระบบ
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนสิงหาคม 2563 ยังคงชะลอตัว แต่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคมจากหลายสาขาทั้งด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การส่งออกสินค้า และการบริโภคภาคเอกชน เนื่องจากหลายปัจจัยปรับตัวดีขึ้น การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากหดตัวร้อยละ 11.6 ในเดือนกรกฎาคม เป็นหดตัวร้อยละ 3.8 ยอดจำหน่ายรถกระบะปรับตัวดีขึ้น หดตัวร้อยละ 15 เป็นหดตัวร้อยละ 3.1 รถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่จากหดตัวร้อยละ 5.8 เป็นหดตัวร้อยละ 2.5 ต่อปี ในเดือนสิงหาคม รายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันร้อยละ 9.2 ต่อปี
หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น จึงคาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาส 3 จะขยับขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งหดตัวร้อยละ 12.2 เมื่อปัจจัยเปลี่ยนไปอาจต้องปรับคาดการณ์ทั้งปีจากหดตัวร้อยละ 8.2 ในปี 2563 และขยายตัวร้อยละ 4-5 ในปี 2564 และลุ้นการออกมาตรการใช้จ่ายคนละครึ่งของรัฐบาลในการช่วยค่าใช้จ่าย 3,000 บาท และเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายช่วงปลายปี
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะสิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 อยู่ที่ร้อยละ 47.0 ต่อจีดีพี ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 อยู่ในระดับสูงที่ 254.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย