กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – สสว.เดินหน้าผลักดันเอสเอ็มอีเข้าสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ผสานความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนกว่า 22 หน่วยงาน รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการทั่วประเทศกว่า 1.26 แสนราย เข้าสู่ระบบทะเบียนเอสเอ็มอี เตรียมพร้อมรับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 1 ต.ค.นี้ คาดเอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดภาครัฐกว่า 4 แสนล้านบาท
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งที่เกิดจากผลกระทบวิกฤติโควิด-19 และปัญหาไม่สามารถเข้าถึงตลาด สสว.ในฐานะที่มีบทบาทภารกิจหลักในการส่งเสริมเอสเอ็มอี เล็งเห็นว่าการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ท้องถิ่นและภูมิภาคสามารถเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพโดยเฉพาะตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่าสูงกว่า 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี จะเป็นหนทางช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สสว.ร่วมกับกรมบัญชีกลาง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในนามคณะทำงานสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมการเข้าถึงตลาดดังกล่าว และจะเริ่มสะท้อนผลสำเร็จเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคลังกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. …. เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมาตามที่กรมบัญชีกลางเสนอ
สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวกำหนดมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ง่ายขึ้น ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่ 1.กำหนดสัดส่วนจัดซื้อจากเอสเอ็มอี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างในหมวดสินค้า/บริการที่กำหนด โดยให้คัดเลือกจากเอสเอ็มอีในจังหวัดก่อน หากไม่มีในจังหวัดหรือมีจำนวนไม่ครบ 3 ราย สามารถคัดเลือกจากภายนอกจังหวัดได้ 2.การให้แต้มต่อร้อยละ 10 กับเอสเอ็มอีที่เข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธี e-Bidding สามารถเสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดไม่เกินร้อยละ 10
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายการสินค้าและบริการกับ สสว. เบื้องต้นร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนรวมกว่า 22 หน่วยงาน ทำการรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการและสินค้า/บริการ โดยจะมีการตรวจสอบคัดกรองและจัดหมวดหมู่และนำเข้าสู่ระบบบัญชีรายชื่อจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทางหน่วยงาน องค์กรเอกชนต่าง ๆ 11 แห่ง ประมาณ 440 ราย จาก 41 จังหวัด มีรายการสินค้าและบริการประมาณ 1,200 รายการ ใน 51 หมวดสินค้าและบริการ ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้ผู้ประกอบการทำการขึ้นทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเป็นสมาชิกและอยู่ในเครือข่ายของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนรวม 126,320 ราย เข้าร่วมขึ้นทะเบียนเอสเอ็มอี เพื่อให้พร้อมรองรับการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
“ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการขนาดย่อม (Micro) และวิสาหกิจขนาดย่อม (Small) ที่เป็นผู้ค้าภาครัฐกว่า 45,000 ราย ซึ่งมั่นใจว่าหลังจากเปิดให้เอสเอ็มอีขึ้นบัญชีจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้จะทำให้มีผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท หรือ 30% ของงบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่มีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท” นายวีระพงศ์ กล่าว
สำหรับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเรื่องด่วน คาดว่าจะพิจารณาเสร็จและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ในส่วนผู้ประกอบการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จะต้องมีสัญชาติไทย ครอบคลุมนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา . – สำนักข่าวไทย