อิมแพค เมืองทองธานี 9 ธ.ค.- เลขาฯ ป.ป.ช. ระบุ เรื่องทุจริตที่พบมากที่สุดคือ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เชื่อ หากแก้ปัญหาเรื่องสินบน ผลประโยชน์ทับซ้อนได้ จะทำให้ผลคะแนนระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต ดีขึ้น
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวถึงการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล 9 ธันวาคมของทุกปีว่า การทุจริตคอร์รัปชันในปัจจุบัน ประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับปัญหาทุจริตได้โดยลำพัง การจัดงานนี้เป็นการแสดงพลังร่วมมือร่วมใจภาครัฐภาคเอกชน ภาคประชาชนว่าเรามีความตั้งใจมุ่งมั่นจริงใจที่จะต่อสู้ปัญหาคอร์รัปชันไปด้วยกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในการโน้มน้าวในการป้องปรามบุคคลที่คิดจะทุจริตได้ในระดับหนึ่ง
“ส่วนเรื่องทุจริตที่พบมากที่สุด คือการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะการใช้งบประมาณของภาครัฐ จะไปตั้งต้นที่การจัดซื้อจัดจ้าง เริ่มต้นตั้งแต่ในชั้นการประกวดราคา ไม่ใช่ทุจริตเรียกรับเงินที่หน้างาน ซึ่งเรื่องนั้นก็ยังมีอยู่แต่ไม่มาก และการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นการทุจริตสำคัญในทุกภาคส่วนของภาครัฐที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน ซึ่ง ป.ป.ช. พยายามป้องปราม เฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งจะเป็นผลดีในการรักษางบประมาณของแผ่นดิน ได้ดีกว่าเมื่อเกิดปัญหาการทุจริตแล้ว จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ก็จะเกิดความเสียหายแล้ว ซึ่ง ป.ป.ช. ในปัจจุบัน จะเน้นการป้องปรามเพื่อหยุดยั้งการทุจริต” นายสาโรจน์ กล่าว
ทั้งนี้ถ้าสามารถป้องปรามเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างจะทำให้ระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (ค่าCPI) สูงขึ้นได้หริอไม่นั้น นายสาโรจน์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะ การจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน ที่สำคัญคือบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย ก็จะเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการสะท้อนการทำงานของภาครัฐ เพราะการรับรู้การทุจริต ที่องค์กรความโปร่งใสนานาชาติได้รวบรวมมา เป็นเรื่องการตรวจสอบการสอบถามข้อมูลจากนักลงทุนต่างชาติต่างๆ ซึ่งถ้าเราหยุดยั้งพฤติกรรมตรงนี้และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีได้ คนที่มาลงทุนไม่ต้องจ่ายเงินในการติดต่อกับหน่วยงานราชการในการประกวดราคาต่างๆ ก็จะทำให้ค่า CPI ของเราดีขึ้น ในขณะเดียวกันในฐานะหน่วยปราบปรามการทุจริตจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่รับรู้ไปยังนานาชาติด้วยว่าเรามีการดำเนินการอย่างจริงจัง
เมื่อถามว่า ค่าคะแนน CPI ของไทยอยู่ที่ 35-36 ถูกตรึงตรงนี้มานานแค่ไหน นายสาโรจน์ กล่าวว่า ในเรื่องของค่าคะแนน ป.ป.ช. ได้มีการนำมาวิเคราะห์ว่าส่วนไหนที่เราดีขึ้นหรือแย่ลง เราจะได้ไปโฟกัสที่ตรงนั้น
“อย่างกรณีผลคะแนนของปี 2566 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าในเรื่องของสินบน ผลประโยชน์ทับซ้อน และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติไปเป็นของส่วนตน ตรงนี้ผลคะแนนของเราตกลง ซึ่งต้องมาโฟกัสที่ตรงนี้ว่าจะต้องมีการปราบปรามอย่างจริงจัง และให้มีประสิทธิภาพ คือเรานำผลคะแนนมาวิเคราะห์พฤติกรรมการทุจริตของภาครัฐ และไปโฟกัสที่ตรงนั้น เชื่อว่าจะทำให้ผลคะแนนดีขึ้น” นายสาโรจน์ กล่าว.-315 สำนักข่าวไทย