2 องค์กรจับมือสู้ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติขอยกเลิกแบน 2 สาร

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – ไทยแพนผนึกไบโอไทยยื่นศาลปกครอง คัดค้านบริษัทสารเคมีข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ขอเพิกถอนประกาศแบนพาราควอต-คลอร์ไพริฟอส ด้าน “มนัญญา” ​ลั่นเกษตร​กรที่เดือดร้อน​จาก​การ​ยกเลิก​ 2 สาร มาแจ้งโดยตรงได้​ แต่​เดินทาง​ตรวจ​ราชการ​ทั่วประเทศ​ ไม่มี​ใครมาร้องสักราย​เดียว​


นางสาวปรกชน อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน) กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถีตัวแทนไทยแพน ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือของกลุ่มนักวิชาการ องค์กรสาธารณประโยชน์ด้านการเกษตรและการคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มเกษตรกรยื่นร้องสอดคดีที่บริษัท ซินเจนทาฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศแบนสารพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยคดีนี้ศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม รับคำร้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ ส.12/2563 ผู้ฟ้องคดี คือ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด ส่วนผู้ถูกฟ้อง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย กรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ดังนั้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถีจึงขอยื่นเป็นผู้ร้องสอด เพื่อจะนำเสนอข้อมูลผลกระทบสารเคมีทั้ง 2 ชนิด โดยหวังศาลคุ้มครองสุขภาพความปลอดภัยเกษตรกร-ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

นางสาวปรกชน กล่าวถึงที่มาของการฟ้องคดีนี้ว่า จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมโดยความเห็นของคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2563 กำหนดให้สารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส ซึ่งเป็นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก การนำผ่าน หรือการมีไว้ในครอบครอง โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมานั้น ปรากฏว่า บริษัท ซินเจนทา ซึ่งเป็นผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าสารเคมีการเกษตรรายใหญ่ สำนักงานใหญ่อยู่สวิตเซอร์แลนด์ได้ยื่นฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องรวม 5 รายต่อศาลปกครองกลาง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2563 และคำสั่งกรมวิชาการเกษตร ที่ 750/2563 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีผลให้สามารถมีการนำเข้าและจำหน่ายสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอสได้


นางสาวปรกชน ตั้งข้อสังเกตว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทซินเจนทาห้ามใช้พาราควอตมากว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังผลิตส่งขายในประเทศต่าง ๆ ไทยแพนเห็นว่าการออกประกาศแบนสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอสเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับข้อมูลวิชาการความเป็นอันตรายร้ายแรงและผลกระทบจากการใช้สารเคมีทั้ง 2 ชนิด ตรงตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 มาตรา 18 แล้ว คือ “เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันและ ระงับอันตรายที่อาจมีแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม” ทั้งนี้ หลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข สภาเกษตรกรแห่งชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ตรวจการแผ่นดิน และแพทยสภามีความเห็นข้อเสนอตรงกันให้แบนสารพาราควอตและสารคลอร์ไพริฟอส ดังนั้น ไทยแพนจึงเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์ร้องสอดขอเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 ในคดีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมจากที่หน่วยงานราชการชี้แจงต่อศาลปกครอง เพื่อให้ผลคำพิพากษานำไปสู่การคุ้มครองสิทธิ์ตาม รัฐธรรมนูญของประชาชน ผู้บริโภค เกษตรกร และปกป้องประโยชน์ของสาธารณะและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ด้านนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการที่สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทยยื่นหนังสือต่อเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อให้ทบทวนการแบนพาราควอต ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช ว่า ทางกฎหมายนั้น ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมให้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลปฏิบัติแล้ว อีกทั้งยังมีคำสั่งของกรมวิชาการเกษตรที่ให้เกษตรกรต้องส่งมอบคืนวัตถุอันตรายแก่ผู้ขายที่ตนซื้อมาให้แล้ว ไม่เกินวันที่ 29 สิงหาคม ผู้ขายต้องรวบรวมวัตถุอันตรายส่งมอบผู้ผลิตและผู้นำเข้า พร้อมแจ้งปริมาณวัตถุอันตรายแก่พนักงานเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร ไม่เกินวันที่ 28 กันยายน และผู้ผลิตหรือนำเข้าวัตถุอันตรายต้องรวบรวมวัตถุอันตรายที่รับมอบพร้อมวัตถุอันตรายที่อยู่ในความครอบครองเพื่อแจ้งปริมาณแก่เจ้าหน้าที่ไม่เกินวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมแจ้งแผนเก็บรักษา กำหนดเวลา วิธีการและสถานที่ทำลายที่ปลอดภัย เมื่อดำเนินการทำลายแล้ว ให้ส่งผลการทำลายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่ง​จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย

“เดินทางตรวจราชการทั่วประเทศ ยังไม่มีเกษตรกรมาร้องว่าได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสารเคมีทั้ง 2 ชนิด มีแต่บอกว่า ยกเลิกนั้นดีแล้ว แต่หากมีเกษตรกรที่เดือดร้อนจริงสามารถมาแจ้งหรือยื่นหนังสือได้ตลอดเวลา ในฐานะที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรและเป็นผู้ผลักดันให้ยกเลิกใช้สารเคมีอันตรายตั้งแต่ต้น พร้อมรับฟังและชี้แจงแนวทางช่วยเหลือที่กระทรวง​เกษตร​ฯ​ วางไว้ ขอย้ำว่าผู้ที่อ้างว่าเดือดร้อนต้องเป็นเกษตรกร ไม่ใช่ผู้ประกอบอาชีพอื่นหรือหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้อง” นางสาวมนัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี