กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คปภ.เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ – แชร์ “ข้อมูล Black List บริษัทประกันภัย” ยันกำกับดูแลและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มที่
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวและการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูก Black List เกี่ยวกับสถานะทางการเงินและการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย ผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ นั้น คปภ.ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อความเก่าที่มีการส่งต่อกันมา โดยไม่ปรากฏแหล่งที่มาของข้อมูลและไม่เป็นความจริง เนื่องจากปัจจุบันบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้าง ได้แก่ บริษัท พาณิชยการประกันภัย จำกัด บริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัด บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด และบริษัท พัชรประกันภัย จำกัด ถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยไปแล้วระหว่างปี 2547-2557
สำหรับบริษัทประกันวินาศภัยที่ถูกกล่าวอ้างอีก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีฐานะการเงินและการดำเนินงานเป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 กำหนดไว้ ดังนั้น ข้อความที่มีการส่งไลน์แอปพลิเคชั่นดังกล่าว จึงสร้างความเสียหายต่อภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย รวมถึงทำลายความเชื่อมั่นของผู้ทำประกันภัยและประชาชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับความเสียหายจากข่าวลืออันเป็นเท็จได้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่สร้างข่าวลือจนนำไปสู่การออกมาแถลงข่าวและขอโทษผ่านสื่อมวลชน แต่ปัจจุบันยังคงมีผู้ส่งต่อข้อความดังกล่าวอยู่ ดังนั้น คปภ.จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวลือที่ได้รับหรือความถูกต้องของข้อมูลที่มีการส่งต่อกันมา โดยสามารถสืบค้นข้อมูลด้านการประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของ คปภ. www.oic.or.th และหากเป็นข่าวที่ไม่จริงหรือข่าวปลอมควรหลีกเลี่ยงการส่งต่อ เนื่องจากตามกฎหมายแล้วผู้ที่ผลิตข่าวเท็จ บิดเบือน และนำออกเผยแพร่บน Social Media โดยการนำข้อความเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน รวมถึงผู้ที่ส่งต่อข้อมูลเท็จโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จ อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ซึ่งมีโทษตามกฎหมาย
“คปภ.เป็นหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลบริษัทประกันภัยให้มีความมั่นคงและปฏิบัติงานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยจะติดตามการดำเนินงานของบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัยอย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่ทำประกันภัยไว้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยด้วยความถูกต้อง รวดเร็วและเป็นธรรม ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย