กรุงเทพฯ 23 ต.ค.-กรมปศุสัตว์ พร้อมร่วมสาง คดีดีเจสาวควักไส้แมว
ระบุตำรวจต้องส่งซากแมวให้สัตวแพทย์ตรวจสอบ โต้ สัตวแพทย์ของ NGO ไม่ใช่สัตวแพทย์ด้านพยาธิวิทยาโดยตรง
นายสัตวแพทย์สวรวิศ ธานีโต
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า
ได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์ธีระวุฒิ สุวัฒนะเชาวน์
ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ ซึ่งได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนคดีแมวของดีเจสาวตายผิดปกติ
โดยทั้งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และพนักงานสอบสวนเห็นร่วมกันว่า
คดีนี้มีความน่าสงสัย เนื่องจากดีเจ รับแมวไปเลี้ยง นำซากแมวมาให้ตำรวจ
โดยไม่มีอวัยวะภายในเหลืออยู่ เมื่อตำรวจถามว่า ไส้แมวอยู่ที่ไหน
ดีเจสาวไม่ตอบคำถาม แม้จะมีข้อสงสัย แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ ในการกล่าวโทษดีเจคนดังกล่าว
ขณะเดียวกันหลักฐานสำคัญคือ
ซากแมวนั้น ทาง NGO ซึ่งมากับผู้ร้องทุกข์ได้นำซากแมวไป โดยระบุว่า
มีสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ ทั้งนี้ตามแนวทางการพิสูจน์หลักฐาน
ตำรวจจะต้องนำส่งปศุสัตว์พื้นที่เพื่อให้สัตวแพทย์ด้านพยาธิวิทยาเป็นผู้ชันสูตร
ซึ่งสัตวแพทย์ของ NGO นั้นไม่ใช่สัตวแพทย์ด้านพยาธิวิทยา ขณะนี้
ยังไม่ยอมส่งคืนกลับให้ตำรวจ โดยทางพนักงานสอบสวนมีอำนาจเรียกคืนซากแมวซึ่งเป็นหลักฐานของคดีได้
แต่แพทย์ด้านพยาธิวิทยาของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ไม่แน่ใจว่า
ซากจะอยู่ในสภาพให้ผ่าพิสูจน์ซ้ำได้หรือไม่ หากเก็บรักษาในอุณหภูมิไม่เหมาะสม
ซากอาจเน่า หรือถ้าอวัยวะบางส่วนหายไป
จะทำให้ลงความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุการตายได้ยาก ตำรวจอาจต้องใช้กระบวนการสอบสวน
หาคำตอบจากดีเจที่ถูกกล่าวหา แนะส่งตัวดีเจคนดังกล่าวไปตรวจสอบสุขภาพจิตด้วย
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า
ตลอดกระบวนการสอบสวนนั้น
ทางปศุสัตว์จะเข้าร่วมทำงานกับตำรวจโดยตลอดเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.
ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557
และหากหาข้อพิสูจน์ได้ว่า แมวถูกฆ่า ผู้กระทำจะมีความผิดตามมาตรา 3
ฐานทารุณกรรมสัตว์ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า
กรณีเกิดเหตุทารุณกรรมสัตว์
ตำรวจต้องส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับสัตว์ให้สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
หรือปศุสัตว์พื้นที่
ซึ่งจะนำส่งให้สัตวแพทย์ด้านวิทยาเป็นผู้ตรวจสอบเช่นเดียวกับเมื่อคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต้องมีแพทย์ด้านพยาธิวิทยาหรือนิติวิทยาพิสูจน์
แต่ทั้งนี้อาจเพราะเรื่องการดำเนนคดีต่อผู้ทารุณกรรมสัตว์เป็นเรื่องใหม่สำหรับพนักงานสอบสวน
จากนี้ไปกรมปศุสัตว์จะประสานงานกับตำรวจให้เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายนี้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย