รมว.พาณิชย์ยังใช้เพดานราคาขายปลีกน้ำตาลเท่าเดิม

กระทรวงพาณิชย์ 16
ม.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ย้ำเพดานราคาขายปลีกน้ำตาลทรายยังเท่าเดิมไม่เกิน
23.50 บาทต่อกิโลกรัมหลังมีประกาศหัวหน้าคสช.ใช้มาตรา 44 ลอยตัวราคาน้ำตาลทราย
แต่ราคาจำหน่ายหรือราคาแนะนำ รอหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จี้ภาคธุรกิจต้องลดราคาลงมา
เมื่อราคาน้ำตาลถูกลง


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า
แม้รัฐบาลจะประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลให้เป็นไปตามราคาตลาดโลก แต่เพดานราคาขายปลีก
ยังกำหนดสูงสุดไม่เกิน
23 .50 บาทต่อกิโลกรัม
เนื่องจากน้ำตาลทรายยังเป็นสินค้าในบัญชีสินค้าควบคุม
เพราะเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการครองชีพ แต่จะเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่าย
หรือจะต้องออกประกาศราคาแนะนำหรือไม่นั้น ได้ให้กรมการค้าภายในไปศึกษา
และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ราคาอิงตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อประกาศลอยตัว ราคาน้ำตาลจะถูกลง
ดังนั้นภาคธุรกิจควรปรับลดราคาขายตามต้นทุนที่แท้จริงด้วย
แต่หากไม่ยอมปรับลดตามต้นทุนก็ต้องเรียกมาชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ปรับลดราคาขายลงมา
เพราะถือจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ อย่างไรก็ตาม
กระทรวงพาณิชย์ขอยืนยันว่า ราคาน้ำตาลทราย ยังคงกำหนดเพดานราคาขายปลีกไว้ที่
23. 50 บาทต่อกิโลกรัมเท่าเดิม
.


ทั้งนี้ ตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 1/2561 เรื่อง
การแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ําตาลทรายทั้งระบบ
มีใจความว่า โดยที่รัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ําตาลทรายทั้งระบบ
ปี 2559-2564
ซึ่งต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นสากลและสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ
จึงจำเป็นต้องยกเว้นการใช้บังคับมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ําตาลทราย พ.ศ.2527
เป็นการชั่วคราว
เพื่อให้การดําเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ําตาลทรายทั้งระบบสามารถบรรลุผลสําเร็จเพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
ชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ําตาลทราย

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
จึงมีคําสั่ง ให้ยกเว้นการใช้บังคับ (18) ของมาตรา 17
แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ําตาลทราย


พ.ศ. 2527 เฉพาะในส่วนของการกําหนดราคาขายน้ําตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักรตั้งแต่ฤดูการผลิตปี
2560/2561 ถึงฤดูการผลิตปี 2561-2562
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดําเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยอ้อยและน้ําตาลทรายให้สอดคล้องกับแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ําตาลทรายทั้งระบบพ.ศ.
2559-2564 โดยเร็ว
-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ