พฤกษาคาดตลาดอสังหาฯปีนี้ขยายตัวร้อยละ 5

กรุงเทพฯ 16 ม.ค.-กลุ่มบริษัท พฤกษา ประเมินคาดผลพวงจากโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาล
ผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี
2561 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลคึกคัก
คาดขยายตัวร้อยละ
5 ชี้ตลาดบนยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักอสังหาริมทรัพย์ปีนี้


นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท
พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า 
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี
2561 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
คาดว่าจะมียอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ  
5 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 420,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาล
ขณะที่ปีนี้บริษัท ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่
53,742 ล้านบาท
เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ
13 และรายได้ 50,500 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 10
โดยมาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ จำนวน
75 โครงการ มูลค่า 66,700 ล้านบาท และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ
รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าให้ดียิ่งขึ้น

นางสุพัตรา กล่าวว่า อีก 5 ปีข้างหน้ามูลค่าตลาด Smart
Home จะเติบโตร้อยละ 13.65
พฤกษาจึงนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ  อาทิ
การเยี่ยมชมโครงการใหม่ผ่านระบบ
VR รวมถึงการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง
ๆ ในบ้านผ่านระบบ
AI รวมถึงพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อรองรับสำหรับสังคมสูงวัย
นอกจากนี้บริษัทได้ใช้แผนกลยุทธ์การตลาดแบบ
Digital Marketing เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้น


นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา
เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท 
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ตลาดระดับบนยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
ขณะที่ตลาดระดับกลางและล่างอย่างมีปัญหาในส่วนของหนี้ครัวเรือน
ขณะที่ที่ดินใจกลางเมืองยังได้รับความสนใจเป็นอย่างดี
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มาจากการลงทุนของภาครัฐ
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และตลาดหุ้นที่สูงขึ้นระดับ
1,800 จุด ประกอบกับ
ความเชื่อมั่นของประชาชนเริ่มกลับมา

สำหรับ ปีนี้พฤกษาฯเตรียมเดินหน้าลุยตลาดพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่
6,800 ล้านบาท และเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่ จำนวน 8 โครงการ
มูลค่า
10,260 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และมีปัจจัยความเสี่ยงของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
พฤกษาฯจึงเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก แต่จะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า
โดยพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวเพื่อสร้างความแตกต่างจากตลาดและคู่แข่ง
ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าพฤกษาฯประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมียมเป็นอย่างสูง
และในปีนี้ก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นอีกปีที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน.-
สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง