ธปท.ย้ำควร “เก็บกระสุน” นโยบายการเงินรับความเสี่ยงอนาคต

กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – ธปท.ย้ำจำเป็นต้องเก็บกระสุนไว้ใช้เพื่อรับความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่ไม่แน่นอนสูงในอนาคต โดยเงินเฟ้อทั่วไปแม้ต่ำตามราคาพลังงาน แต่ไม่เป็นภาวะเงินฝืด


ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน Monetary Policy Forum 1/2568 นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า สงครามการค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ซึ่งการใช้นโยบายการเงินดูแลนั้ย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุดมองว่าโลกข้างหน้ามีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง อาจมีเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้นโยบายช่วงนั้นดีจะดีกว่า ส่วนอีกด้านการลดดอกเบี้ยขณะนี้อยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว ภายใต้บริบทความไม่แน่นอนสูง ผลของการลดดอกเบี้ยอาจจะไม่ส่งถึงแรงกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก หากดูประเทศอื่นในภาวะดอกเบี้ยต่ำ แรงกระตุ้นจากการลดดอกเบี้ยจะน้อยลง และการส่งผ่านจะลดลง ซึ่งการเก็บ “Policy Space” เก็บไว้เพื่อใช้รองรับโลกในระยะข้างหน้าที่มีความเสี่ยงหลากหลาย และอาจมีความจำเป็นต้องใช้กระสุนช่วงนั้นน่าจะดีกว่า

“ Room ที่เหลือไม่มากนัก ในขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.75% แรงกระตุ้นเพิ่มเติมจะลดลง และยังต้องเก็บกระสุนไว้เพื่อใช้ในระยะข้างหน้า เพราะยังมีความไม่แน่นอนมาก อย่างการลงทุน เมื่อลดดอกเบี้ยไป แต่ยังมีความไม่แน่นอน คนก็ไม่กล้าลงทุน คนก็ยังไม่กล้าจับจ่าย ผลหรือประสิทธิภาพนโยบายการเงินอาจจะได้ไม่มาก”นายปิติ กล่าว


นางปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยโดยรวมมีแนวโน้มที่ปรับลดลง จากภาคต่างประเทศเป็นหลัก และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอน โดยเฉพาะการค้าที่ยังไม่สามารถคาดเดาตอนจบได้ อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐและจีนเจรจากันได้ และลดภาษีให้กันชั่วคราวนั้น เป็นพัฒนาการเชิงบวกทำให้ความตึงเครียดทางการค้าลดลง คาดจีนคงจะเร่งส่งออกมากขึ้นในช่วง 90 วันนี้ ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบน้อยลง เรื่องของสินค้าที่จะไหลเข้ามาในไทย และสินค้าของจีนที่จะแข่งกับไทยในตลาดอื่น น่าจะบรรเทาลง เพราะสามารถส่งออกไปยังสหรัฐได้

“ถ้าเทียบกับผลที่สหรัฐและจีนเจรจาและผ่อนผันเรื่องภาษีกันได้ชั่วคราว 90 วันนั้น มูลค่าที่มีต่อจีดีพีของไทยอาจจะไม่ได้มาก ประมาณ 0.1% เนื่องจากเป็นการลดภาษีชั่วคราว 1 ไตรมาส หลังจากนี้ต้องจับตาผลการเจรจาของไทยและทุกประเทศต่อเนื่อง” นางปราณี กล่าว

ในเบื้องต้น ประเมินผลกระทบแต่ละ sector ต่างกัน กลุ่มที่มีความกังวลมาก คือ กลุ่มที่เจอการแข่งขันที่สูงขึ้นจากสินค้านำเข้า (import flooding) เช่น เครื่องนุ่มห่ม และสิ่งทอ ซึ่งมีเอสเอ็มอีกว่า 1.2 แสนราย จ้างงาน 4.3 แสนคน เฟอร์นิเจอร์ มีเอสเอ็มอีกว่า 1.2 หมื่นราย จ้างงานกว่า 1.5 แสนราย เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะขนาดเล็กมีเอสเอ็มอี 5,000 ราย จ้างงาน 1.4 แสนคน ซึ่งจากการหารือกับเอสเอ็มอี ให้ความเห็นว่า ค่อนข้างอยู่ยาก และคาดหวังว่าจะมีความช่วยเหลือด้านการบังคับกฎหมาย ป้องกันการสวมสิทธิ์ และคาดหวังเรื่องการช่วยเงินทุนเพื่อปรับตัว การหาตลาดใหม่ เป็นต้น


นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า ผลของสงครามการค้าขณะนี้ยังไม่ชัด เบื้องต้นเห็นการลงทุนเห็นการชะลอตัว ประเมินว่า ผลกระทบจากสงครามการค้าจะชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และทอดยาวไปจนถึงปีหน้า โดย sector ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มส่งออก กระทบกลุ่มเอสเอ็มอีที่นำเข้า การผลิต โจทย์ในเชิงของนโยบาย คงต้องให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้ภาคการผลิต ธุรกิจรวมถึงส่งออก จะต้องปรับตัวกับโลกใหม่

สำหรับศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (Potential growth) ในปีนี้น่าจะต่ำกว่า 3% สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าขายของโลก ต้องปรับตัว และหากไม่ปรับตัวในระยะยาว จะทำให้ศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปรับลดลงได้ ผู้ประกอบการต้องเน้นลดต้นทุน ควบคู่การขยายตลาด เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มเพิ่มความสามารถการแข่งขั้นทั้งสินค้าส่งออกและสินค้าที่จะมีการไหลเข้ามา ในขณะที่การลงทุนที่แย่ลงในปีนี้ ยังมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไปก็กระทบต่ออุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์

ด้านนักท่องเที่ยวยอมรับว่า เห็นภาพที่นักท่องเที่ยวจีนจะมาไทยน้อยลง และอาจเป็นประเด็นระยะยาวจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย และทางการที่สนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ โดยตัวเลขประมาณการนักท่องเที่ยวมาไทยปีนี้ที่ 37.5 ล้านคน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า การเร่งตัวของการส่งออก ทำให้เศรษฐกิจไทยยังขยายตัว ทั้งนี้ต้องรอติดตามตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน โดยหากมองไปข้างหน้า โอกาสที่เศรษฐกิจไทยไตรมาสต่อไตรมาส ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย (recession) เพราะยังไม่เห็นการติดลบของเศรษฐกิจ

นายสุรัช แทนบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน กล่าวว่า ด้านเงินเฟ้อทั่วไป มีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และการช่วยเหลือค่าครองชีพจากภาครัฐด้วย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลาง ยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมายได้ หรืออยู่ประมาณ 1.6% โดยการที่เงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลง ยังไม่ได้มีสัญญาณการหตัวของราคาสินค้าและบริการที่กระจายเป็นวงกว้างที่สะท้อนภาวะเงินฝืด

นายสุรัช กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อโดยรวมหดตัว ไม่ปรับดีขึ้น โดยสินเชื่อหดตัว -0.5% ทางด้านคุณภาพสินเชื่อทรงตัว แต่ต้องติดตามคุณภาพสินเชื่อเอสเอ็มอี และคุณภาพสินเชื่อบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี สินเชื่อและหนี้เสียขยายตัวสอดคล้องกับ Credit Risk ดังนั้น นโยบายการเงินปรับตัวสอดคล้องกับ outlook ระยะข้างหน้า และความเสี่ยงระยะข้างหน้า โดยนโยบายการเงินอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องติดตามระยะถัดไป คือ ผลของการเจรจา และติดตามระยะยาวเรื่องของการปรับตัวในทุกด้าน.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]