กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เรียกร้อง รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง เร่งคลอดมาตรการฟื้นความเชื่อมั่นตลาดทุน ทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว ต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นต้องเร่ง จัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 เพื่อรองรับเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ยังคงค้างด่วนที่สุด
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้นัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดของกองทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนเร็ว ๆ นี้ ซึ่งการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 เพื่อรองรับเม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ยังคงค้างอยู่ในระบบเป็นระเด็นสำคัญที่จะช่วยชะลอการขายระยะสั้น ซึ่งกดดันตลาดโดยรวม โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด จากในอดีตที่มีการจัดตั้งกองทุน ThaiESG ใช้เวลาเพียง 1 เดือนก็สามารถดำเนินการได้ โดยคาดว่า เม็ดเงินในกองทุน LTF ที่ค้างในระบบทั้งหมดราว 1.8 แสนล้านบาท
“แนวคิดของรัฐบาลที่จะให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาทต่อราย มองว่าน่าจะครอบคลุมนักลงทุนที่ถือ LTF อยู่ เนื่องจากมีการคำนวณจากตัวเลขที่เป็นมูลค่าคงค้างของแต่ละราย เมื่อดำเนินการแล้วเชื่อว่าจะทำให้ความจำเป็นในการขายกองทุนแล้วกดดันตลาดลดลงไปพอสมควร แต่อาจมีบางกลุ่มที่มีมูลค่าคงค้างมากกว่า 500,000 บาท คาดเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนน้อยกว่า หากมีการทยอยขายออกมา แต่ยังมีแรงซื้อจากกองทุน ThaiESG และส่วนอื่น ๆ เข้ามา ทำให้ตลาดเกิดความสมดุล อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีมาตรการอื่น ๆ ทำพร้อมกัน เนื่องจากปัจจุบันนอกจากตลาดจะเผชิญแรงขายระยะสั้นแล้ว ยังมีปัญหาความเชื่อมั่นระยะยาวของตลาดเอง” นายกอบศักดิ์กล่าว
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้มีมาตรการหนุนให้เข้าของบริษัทสามารถซื้อหุ้นของบริษัทตัวเองได้สะดวก และง่ายขึ้น เนื่องจากจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ โดยการยกระดับบริษัทจดทะเบียน ผ่านโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เห็นโอกาสและอนาคตตของบริษัทจดทะเบียน สุดท้ายคือการสนับสนุนให้มีธุรกิจใหม่ ๆ หรือธุรกิจอนาคตเข้ามาในตลาดทุนไทย ซึ่งมีความพยายามในการเสนอให้ขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ. สตาร์ทอัพ เพื่อให้เมืองไทยมี Ecosystem ที่สามารถสร้างธุรกิจแห่งอนาคตได้ ร่วมการสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว ยังรวมถึงการปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่ยุ่งยากและมีความซับซ้อนในตลาดทุนไทย เนื่องจากปัจจุบันตลาดทุนได้มีปัญหาหลายเรื่องที่เกิดจากประเด็นดังกล่าว ทำให้ตลาดมีภาระต้นทุน ซ่อนอยู่ในหลายกระบวนการ หากเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้ ทำให้ต้นทุนให้บริการลดลง และทำให้ตลาดสามารถแข่งขันกับตลาดทุนอื่น ๆ ในโลกได้ดีขึ้น-511 สำนักข่าวไทย