กองสลากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อโพสต์ขายสลากถูกรางวัลผ่านโซเขียล

สนง.สลาก 3 ต.ค.-สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อโพสต์ในสังคมออนไลน์ขายสลากถูกรางวัลในราคาต่ำกว่ามูลค่ารางวัล
ระบุปัจจุบัน มีการหลอกลวงในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับสลากอยู่มาก


จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความและรูปภาพ
ผ่านแอพลิเคชั่น
FACEBOOK โดยมีเนื้อหาในการนำเสนอขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่
1 ที่ยังไม่ได้นำไปขึ้นเงินรางวัลในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริงพลตรีฉลองรัฐ
นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริง
สลากฉบับจริงที่ถูกรางวัลสามารถนำไปขึ้นเงินรางวัลได้เต็มมูลค่าทันที
ที่สำนักงานสลากฯ สนามบินน้ำ ในวันและเวลาทำการ โดยจะเสียค่าอากรเพียงร้อยละ 0.5
ของเงินรางวัลเท่านั้น นอกจากนี้สำนักงานสลากฯ 
มีบริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย การอ้างว่ามีสลากถูกรางวัลจะเสนอขายต่ำกว่ามูลค่ารางวัลนั้น
ตามสมมติฐานของความเป็นจริงแล้ว
ไม่น่าจะมีผู้ยอมเสียเปรียบนำสิ่งที่มีมูลค่ามากกว่าแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มูลค่าต่ำกว่า
ภาพสลากที่เห็นอาจเป็นภาพที่จัดทำขึ้นหรือเป็นภาพสลากที่ผู้ถูกรางวัลเคยเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง
ๆ ไปแล้ว นำกลับมาใช้เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ

นอกจากนี้ยังเตือนประชาชนที่ถูกรางวัล
ไม่ควรเปิดเผยภาพและข้อมูลสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล เผยแพร่ต่อสาธารณะ
เพราะนอกจากจะเป็นการปกป้องสิทธิและความปลอดภัยของท่านแล้ว
ยังจะเป็นการปิดช่องทางการนำภาพของท่านไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องด้วย
ส่วนผู้ไม่ถูกรางวัลก็อย่าไปหลงเชื่อ เรื่องอย่างนี้ไม่มีจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้
สำนักงานสลากฯ
ได้ส่งเรื่องให้สำนักกฎหมายพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว


พลตรีฉลองรัฐ ย้ำเตือน ประชาชน
ขอให้ใช้วิจารณญาณ พิจารณาด้วยความรอบคอบ อย่าด่วนหลงเชื่อ เนื่องจากในปัจจุบัน
มีการหลอกลวงในเรื่องต่าง ๆ อยู่มาก เช่น อ้างว่า มีเลขหลุดจากสำนักงานสลากฯ
หรือการหลอกลวงบอกใบ้เลขเด็ดผ่านจดหมายหลอกลวงหรือสื่อสังคมออนไลน์
รวมถึงการแอบอ้างว่าสามารถจัดสรรสลากให้นำไปจำหน่าย
ถ้าหลงเชื่อจะสูญเสียทรัพย์จำนวนมาก หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์
call center โทร 0-2528
9999 และ 0-2345 1466 ตลอด 24 ชั่วโมง-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ