กรุงเทพฯ 17 ก.พ. – กรมสรรพสามิต เดินหน้าผลักดันภาษีแบตเตอรี่ ยอมรับภาษีความเค็ม ต้องศึกษาให้รอบคอบ เผยบอร์ด EV ขยายเวลาสร้างโรงงานในประเทศ
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวในโอกาสการจัดงานวันสถาปนากรมสรรพสามิต ครอบรอบ 93 ปี ว่า บอร์ด EV เห็นชอบให้ขยายเวลาออกไป เพื่อให้ภาคเอกชนได้ปรับตัว เตรียมเสนอ ครม.ในเร็วๆ นี้ หลังจากกำหนดเงื่อนไขการตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ให้ได้จำนวน 1.5 เท่า ของการนำเข้าในปีถัดไป กรมสรรพสามิต ยังเดินหน้าผลักดันภาษีแบตเตอรี่ รองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า ประชาชนเริ่มซื้อรถไฟฟ้าใช้กันมากขึ้น โดยจะกำหนดพิกัดภาษีตามประเภทการใช้งาน เช่น แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้ง จะเสียภาษีสูงกว่า หากเป็นแบตชาร์จไฟ มีขนาดเล็กลง จะเสียภาษีต่ำลง เพื่อให้ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อบังคับใช้ให้ได้ภายในปี 68
สำหรับรายได้ภาษีกรมสรรพสามิตในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ จัดเก็บได้ 173,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,280 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.74 ส่วนใหญ่มาจากภาษีน้ำมัน 75,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.61 ภาษีเบียร์ 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วนรถยนต์ลดลงถึงร้อยละ 31 นับเป็นยอดภาษีที่ยังท้าทาย โดยทั้งปียังคาดว่าจัดเก็บภาษีสได้ตามเป้าหมาย 697,000 ล้านบาท
ในด้านการดูแลสุขภาพ ยังเดินหน้าศึกษาการจัดเก็บภาษีความเค็ม หลังจากได้จัดเก็บภาษีความหวานกับสินค้าหลายประเทภไปแล้ว สำหรับภาษีความเค็ม ต้องศึกษาให้รอบคอบ รับฟังความเห็นจากหลายส่วน เน้นไปในด้านขนมขบเคี้ยว หรืออาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง แต่ไม่ใช่เก็บภาษีจากผงปรุง เครื่องปรุงรส เช่น เกลือ น้ำปลา ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เหมือนกับภาษีความหวานก่อนจะบังคับใช้ต้องใช้เวลาผลักดันถึง 5 ปี.-515- สำนักข่าวไทย