“เผ่าภูมิ” สั่งเดินหน้าเก็บภาษี “หวาน-เค็ม-มัน”

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – “เผ่าภูมิ” มอบนโยบายสรรพสามิต สั่งเดินหน้าเก็บภาษี หวาน-เค็ม-มัน เปลี่ยนเก็บภาษีแบตเตอรี่ จากคงที่ 8% เป็นขั้นบันได เก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว เผยปีงบ 2567 กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้กว่า 5.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8%


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายแก่กรมสรรพสามิต โดยต้องการให้กรมสรรพสามิตเป็นกลไกและรักษาสมดุลด้านภาษีระหว่างการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน ธรรมาภิบาล และรายได้การจัดเก็บ โดยมีสาระสำคัญ 5 ด้าน

ด้านสุขภาพประชาชน ให้ดำเนินการจัดเก็บภาษีความหวานแบบผสมต่อเนื่อง และเข้าสู่เฟส 4 ตามกำหนดเวลา พร้อมกันนี้ให้กรมสรรพสามิตศึกษาพิจารณากลไกภาษีโซเดียมในสินค้าบางประเภทที่ไม่อยู่ในสินค้าควบคุม โดยเงื่อนไขจะต้องดูที่ปริมาณโซเดียมในสินค้า และเป็นสินค้าที่ไม่กระทบต่อผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาภาษีไขมัน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข เพื่อศึกษา จำแนกชนิดไขมันในสินค้าว่าอยู่ในประเภทไขมันดี หรือไขมันไม่ดี เนื่องจากปัจจุบันบนฉลากสินค้ายังระบุว่าเป็นไขมันรวม ซึ่งการจัดเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภคโซเดียมและไขมัน ตั้งเป้าคนไทยลดบริโภคเค็มลง 30% ภายในปี 2568 ทั้งนี้ ต้องมีระยะเวลาก่อนกฎหมายมีผลบังคับ ใช้ให้ผู้ประกอบการปรับตัว


ด้านบุหรี่ ให้จัดเก็บภาษีแบบผสม โดยพิจารณาและศึกษาความเหมาะสมในการปรับปรุงโครงสร้างภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว หรือ Singler Rate เพื่อลดการบิดเบือนกลไกราคา โดยให้พิจารณาปัจจัยความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสนับสนุนผู้เพาะปลูกใบยาสูบในประเทศด้วย รวมทั้งดำเนินการระบบตรวจติดตามบุหรี่ โดยใช้ระบบ QR Code ในบุหรี่ เพื่อป้องกันบุหรี่เถื่อนทั้งระบบ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีและแหล่งที่มาของบุหรี่เพื่อมั่นใจได้ว่าได้มาตรฐานและตรวจสอบโดยกรมสรรพสามิต

ด้านยานยนต์ ใช้กลไกภาษีกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งมีห่วงโซ่อุปทานเชื่อมจากอุตสาหกรรมขนาดเล็กถึงใหญ่ รวมถึงการจ้างงาน โดยใช้ภาษีสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนผลิต PHEV BEV และ FCEV ให้เพิ่มขึ้นในประเทศ แต่ยังคงรักษาฐานการผลิตรถยนต์ ICE และ HEV ไว้ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ต้องกำหนดเวลาชัดเจน และให้แนวทางว่ากรมสรรพสามิตสามารถสูญเสียรายได้ในระยะสั้น เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในระยะยาว ซึ่งเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจประเทศได้

ด้านน้ำมัน กำหนดกลไกราคาคาร์บอนในภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 6 ประเภท โดยคำนวณจากค่าสัมประสิทธิ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเบื้องต้นกำหนดราคาคาร์บอนที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือกระบวนการผลิตที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ โดยต้องไม่ให้กระทบต่อราคาพลังงาน และด้านแบตเตอรี่ ให้ศึกษาพิจารณาเปลี่ยนจากอัตราคงที่ 8% เป็นอัตราแบบขั้นบันได โดยคำนึงถึงปัจจัย Life Cycle และค่าพลังงานจำเพาะต่อน้ำหนัก รวมถึงชนิดของแบตเตอรี่ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแบตเตอรี่สะอาด อุตสาหกรรมรถยนต์ EV


นายเผ่าภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) สะท้อนถึงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่สูงกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย นอกจากนั้นยังสะท้อนถึงการใช้จ่ายในประเทศที่ดีขึ้นตามการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากสินค้าและบริการในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ภาษีเครื่องดื่ม ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 8 ภาษีกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ (ไนต์คลับและดิสโกเธค) และภาษีสนามกอล์ฟ จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 และร้อยละ 12.4 ตามลำดับ สำหรับการจัดเก็บภาษีแบตเตอรี่ สูงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 15.6 ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการเติบโตขึ้นซึ่งในปีงบประมาณ 2567 กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้ 523,676 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 จากปีก่อน

นอกจากนี้ ด้านการปราบปรามนั้น ผลการปราบปรามเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 33,359 คดี สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 28.1 เงินค่าปรับนำส่งคลังจำนวน 690.75 ล้านบาท โดยเกิดจากการที่กรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกในด้านการปราบปรามทั้งระบบ ทั้งศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ ที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สืบค้นในทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกองค์กร เพื่อจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้สินค้าหนีภาษีหลุดลอด เพราะอาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัย จนส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตพร้อมขับเคลื่อนนโยบายและมาตรทางภาษีดังกล่าว ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตให้ความสำคัญในการดำเนินมาตรการภาษีสรรพสามิตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และดูแลพี่น้องประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยการเดินหน้านโยบายที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG เพื่อให้การดำเนินงานของกรมฯ สอดรับกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจและสังคม การปรับตัวที่รวดเร็วของเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยนำกลยุทธ์ EASE Excise มายกระดับการทำงานทั้งระบบ เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ตามยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) สร้างมาตรฐานสากล เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืนสืบไป. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต