ก.พาณิชย์ 4 ก.พ.-“พิชัย“ เตรียมบินสหรัฐฯ ร่วมงาน NPB 2025 วันที่ 4-8 ก.พ.นี้ พบปะผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั่วโลก เจรจาเชิงรุก สร้างโอกาสการค้าไทย
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2568 ตนจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เพื่อกระชับและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลและภาคเอกชนสหรัฐฯ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสด้านการค้า การลงทุน โดยตนได้รับเชิญเข้าร่วมงาน National Prayer Breakfast 2025 ที่โรงแรม The Washington Hilton ซึ่งเป็นงานสำคัญที่จัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2496 โดยมีผู้นำระดับสูง รวมถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมเป็นประจำ การเข้าร่วมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายและแลกเปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เช่น สมาชิกสภาคองเกรส รัฐมนตรี ภาคเอกชน และผู้นำจากนานาชาติ นอกจากนี้ ตนจะพบกับผู้นำธุรกิจสหรัฐฯ เช่น หอการค้าสหรัฐฯ (USCC), สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ (USABC) และบริษัทชั้นนำอย่าง Google เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยและผลักดันให้บริษัทสหรัฐฯ ขยายการลงทุนในไทย พร้อมหารือแนวทางแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างสองประเทศ
นายพิชัย เปิดเผยว่า ในการเยือนครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ในการเจรจาเชิงรุกเพื่อรักษาโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก่อนเดินทาง ตนยังได้พบหารือกับ นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เพื่อรับคำแนะนำจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในการเข้าเจรจาหารือด้านการค้าการลงทุนกับกลุ่มบุคคลสำคัญต่างๆ ในสหรัฐฯ อีกด้วย
นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า จะได้ใช้โอกาสนี้ซึ่งจะได้พบปะกับผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั่วโลก เน้นย้ำถึง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลนายกแพทองธารว่าเป็นบวกต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 สูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่วนมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.4% หรือกว่า 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยในปีนี้กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกจะขยายตัวอีก 2-3% ทั้งมุ่งมั่นสนับสนุนผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ตั้งแต่รายใหญ่จนถึงผู้ค้ารายย่อย ให้สามารถขยายตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น พร้อมผลักดันการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน.-517.-สำนักข่าวไทย