ก.ล.ต. ดำเนินคดีแพ่งเอาผิด 13 ราย ฐานปั่นหุ้น MAX EIC NEWS และ NEWS-W5

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.- ก.ล.ต. ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 13 ราย กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ ได้แก่ (1) บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MAX) (2) บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) (EIC) (3) บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NEWS) และ (4) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ รุ่นที่ 5 ของ NEWS (NEWS-W5) โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 155,092,540 บาท กับผู้กระทำความผิดทั้ง 13 ราย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์) เมื่อปี 2559 – 2560 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้กระทำความผิดจำนวน 13 ราย ที่มีความสัมพันธ์กันทั้งทางการเงินและความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ อินทรสงเคราะห์ (2) นายเอกวิชญ์ กมลเทพา (3) นางวรณัน เลิศกุลธรรม (4) นายภาณุรักษ์ แสงอร่าม (5) นางสาวกรรณิดา ตั้งกิจตรงเจริญ (6) นายกรวิช อัศวกุล (7) นางสาวกัญจนารัศม์ วงศ์พันธุ์ (8) นายสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล (9) นางอรพิน พิพัฒน์วิไลกุล (10) นายพิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล (11) นายสงกรานต์ ตันศิริ (12) นายภควันต์ วงษ์โอภาสี และ (13) นางมะลิวัลย์ วงศ์ชินศรี ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ในระหว่างเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน 2559 โดยมีรายละเอียดดังนี้


  • กรณีสร้างราคาหุ้น MAX ระหว่างวันที่ 4 – 23 สิงหาคม 2559 มีผู้กระทำความผิด รวม 11 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นางวรณัน (4) นายภาณุรักษ์ (5) นางสาวกรรณิดา (6) นายกรวิช (7) นางสาวกัญจนารัศม์ (8) นายสุวิทย์ (9) นางอรพิน (10) นายภควันต์ และ (11) นางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.16 บาท เป็น 0.21 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 5,387.36 ล้านหุ้น เป็น 10,452.76 ล้านหุ้น
  • กรณีสร้างราคาหุ้น MAX ระหว่างวันที่ 14 – 25 พฤศจิกายน 2559 มีผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นางสาวกรรณิดา (5) นายกรวิช (6) นางสาวกัญจนารัศม์ (7) นายสุวิทย์ (8) นายพิสิษฏ์ (9) นายภควันต์ และ (10) นางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.15 บาท เป็น 0.16 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 6,445.49 ล้านหุ้น เป็น 9,676.69 ล้านหุ้น
  • กรณีสร้างราคาหุ้น EIC ระหว่างวันที่ 4 – 26 สิงหาคม 2559 มีผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นางสาวกรรณิดา (5) นางสาวกัญจนารัศม์ (6) นายสุวิทย์ (7) นางอรพิน (8) นายพิสิษฏ์ (9) นายภควันต์ และ (10) นางมะลิวัลย์ได้ร่วมกันทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.88 บาท เป็น 1.34 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 631.25 ล้านหุ้น เป็น 1,304.43 ล้านหุ้น
  • กรณีสร้างราคาหุ้น EIC ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 23 พฤศจิกายน 2559 มีผู้กระทำความผิดรวม 9 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นางสาวกรรณิดา (5) นางสาวกัญจนารัศม์ (6) นายสุวิทย์ (7) นายพิสิษฏ์ (8) นายภควันต์ และ (9) นางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.97 บาท เป็น 1.36 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 144.19 ล้านหุ้น เป็น 1,208.98 ล้านหุ้น
  • กรณีสร้างราคาหุ้น NEWS ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 9 กันยายน 2559 มีผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นางสาวกรรณิดา (5) นายกรวิช (6) นางสาวกัญจนารัศม์ (7) นายสุวิทย์ (8) นางอรพิน (9) นายภควันต์ และ (10) นางมะลิวัลย์ ได้ร่วมกันทำให้ราคาหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.16 บาท เป็น 0.25 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 13.43 ล้านหุ้น เป็น 411.70 ล้านหุ้น
  • กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ NEWS-W5 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม – 7 กันยายน 2559 มีผู้กระทำความผิดรวม 9 ราย ได้แก่ (1) นายยรรยงค์ (2) นายเอกวิชญ์ (3) นายภาณุรักษ์ (4) นางสาวกรรณิดา (5) นายกรวิช (6) นางสาวกัญจนารัศม์ (7) นายสุวิทย์ (8) นายสงกรานต์ และ (9) นายภควันต์ ได้ร่วมกันทำให้ราคาหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.04 บาท เป็น 0.07 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นจาก 1.65 ล้านหน่วย เป็น 198.64 ล้านหน่วย

การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหลักทรัพย์ MAX EIC NEWS และ NEWS-W5 ตามมาตรา 243 ประกอบมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พระราชบัญญัติหลักทรัพย์) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 (พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ซึ่งแก้ไขโดยฉบับที่ 5) ยังคงบัญญัติเป็นความผิดตามมาตรา 244/3(1)(2) และมาตรา 244/5 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ซึ่งแก้ไขโดยฉบับที่ 5 ซึ่งมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 บัญญัติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับการกระทำความผิดดังกล่าวได้

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 13 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ดังนี้ (1) นายยรรยงค์ จำนวน 4,516,129 บาท (2) นายเอกวิชญ์ จำนวน 5,526,408.50 บาท (3) นางวรณัน จำนวน 2,249,968.50 บาท (4) นายภาณุรักษ์ จำนวน 6,783,580.50 บาท (5) นางสาวกรรณิดา จำนวน 6,605,542.50 บาท (6) นายกรวิช จำนวน 2,000,000 บาท (7) นางสาวกัญจนารัศม์ จำนวน 4,133,342 บาท (8) นายสุวิทย์ จำนวน 67,104,063.50 บาท (9) นางอรพิน จำนวน 14,111,276 บาท (10) นายพิสิษฏ์ จำนวน 5,677,703 บาท (11) นายสงกรานต์ จำนวน 500,000 บาท (12) นายภควันต์ จำนวน 16,760,935 บาท และ (13) นางมะลิวัลย์ จำนวน 19,123,591.50 บาท


มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลเมื่อผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง.-516.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

พ่อ น.ช.เขาพริก งง? เหลืออีก 3 เดือนพ้นโทษ จะหนีทำไม

ยังไร้เงานักโทษคดียาเสพติดหนีเรือนจำเขาพริก จนท.ระดมไล่ล่าข้ามคืน ตั้งค่าหัว 5 หมื่นบาท ด้านพ่อ น.ช. สุดงง ลูกจะหนีทำไม อีกแค่ 3 เดือนก็จะพ้นโทษ อยากให้กลับมามอบตัว

ไหว้เจ้าตรุษจีน

ตรุษจีนเยาวราชคึกคัก ประชาชนลดใช้ธูป ป้องกัน PM 2.5

บรรยากาศการฉลองเทศกาลตรุษจีนเยาวราชคึกคัก ปีนี้ประชาชนพร้อมใจลดใช้ธูป หวังช่วยแก้ฝุ่น PM 2.5 ส่วนชาวไทยเชื้อสายจีน จ.พิษณุโลก สวมชุดแดงพาครอบครัวไหว้เทพเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวจีน

ตำรวจรีดเงิน

รวบสารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา รีดเงินผู้ต้องหาชาวมาเลย์ 2 หมื่น

ไม่รอด! หลักฐานมัดตัวสารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา รีดเงินผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 20,000 บาท อ้างเป็นค่าธรรมเนียมทำคดี