ย่างกุ้ง 22 ก.ย.- PTTGC จับมือกลุ่มลูกค้าพลาสติกไทย
ร่วมแสดงสินค้างาน PROPAK MYANMAR 2017 พร้อมขยายตลาดสู่ CLMV และ AEC
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และสมาคมผู้ผลิตและส่งออกอาหารพม่า ร่วมเปิดงาน PROPAK MYANMAR 2017
พร้อมร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกของบริษัทกับผู้ค้าของประเทศเมียนมา
ในงาน PROPAK MYANMAR 2017 ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2560
เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มลูกค้าเม็ดพาสติก ได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจ หรือ Businees Matching กับกลุ่มผู้ประกอบการพลาสติกในเมียนมา โดยมีกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมพลาสติกให้ความสนใจร่วมเดินทางและออกบูธโชว์สินค้า
22 บริษัท
ประกอบไปด้วย กลุ่มแพคเกจจิ้ง กลุ่มเครื่องใช้ในร้านค้าและบ้านเรือน
และกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร โดยมีการนัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ 250 ราย
ทั้งนี้ จากการที่ PTTGC สำรวจตลาดพลาสติกที่เป็นเครื่องใช้ในการอุปโภคบริโภค
ตามบรรดาร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมียนมาร์ พบว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในปัจจุบัน นำเข้าจากประเทศไทย
และประเทศใกล้เคียง ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเล็งเห็นว่า
กลุ่มประเทศ CLMV
ที่ประกอบด้วย
ประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนามเป็นตลาดที่สำคัญ ใกล้ชิดกับประเทศไทย
และมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงมาก โดยตลาดในประเทศ CLMV เป็นตลาดใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทยมีขนาดรวมกันมากกว่า
1 ล้านตันต่อปี
ปัจจุบัน PTTGC
มีส่วนแบ่งตลาดเม็ดพลาสติกในประเทศกัมพูชาที่ร้อยละ
12 ประเทศลาวร้อยละ
81 ประเทศเมียนมาร้อยละ
14 และเวียดนามร้อยละ
5
โดยมีการส่งออกรวมกว่า 70,000 ตัน/ปี ซึ่งคาดว่ายอดขายสำหรับตลาด CLMV จะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ
7 ต่อปี
โดย PTTGC ตั้งเป้า 5
ปีจะทำยอดขายเม็ดพลาสติกในตลาด CLMV และตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่ม AEC ให้ได้ 100,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายตลาด CLMV ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันจะลดสัดส่วนการขายเม็ดพลาสติกในภูมิภาคอื่นลง
โดยเฉพาะตลาดจีน จากปัจจุบันส่งออกไปถึงร้อยละ 50 ของปริมาณการส่งออกรวม
จะทยอยลดลงให้เหลือเพียงร้อยละ 25 เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันสูง
และราคาไม่ดีกว่าภูมิภาคอื่น สำหรับนโยบายการเข้าร่วมทุนของ PTTGC จะเข้าไปสนับสนุนลูกค้าชั้นดี
เข้าไปลงทุนในประเทศ CLMV โดยเฉพาะการเข้าไปร่วมลงทุนในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ
25
เพื่อสร้างความมั่นใจผู้ประกอบการ แต่จะไม่ทำตลาดแข่ง
ซึ่งส่งผลเชื่อมโยงต่อความต้องการเม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ใน กลุ่ม CLMV ให้เติบโตมากที่สุด
โดยเฉพาะที่ประเทศเมียนมาที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีประชากรรวมกว่า 53 ล้านคน
และมีความต้องการในผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเป้าหมายหลักของทาง
PTTGC ที่ตั้งเป้าให้มีส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ร้อยละ
30 ภายใน 5 ปี
จากความต้องการพลาสติกในเมียนมา ที่มีประมาณ 200,000 – 250,000 ตันต่อปี
มีอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมพลาสติกอยู่ที่ร้อยละ 5-7 ต่อปี ซึ่ง PTTGC ได้เข้าไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทยหลายราย อาทิ รวมทุน TPBI และ Myanmar Star Group ตั้งโรงงานขึ้นรูปพลาสติกเพื่อการผลิตและการขาย รวมทุนกับ SP PET PACK
ตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่นิคมอุตสาหกรรมติละวา
เมืองย่างกุ้ง ซึ่งใช้เม็ดพลาสติก InnoPlus จาก PTTGC เป็นวัตถุดิบหลัก -สำนักข่าวไทย