มูลนิธินายช่างไทยฯ ผนึกจิตอาสา กฟผ. ฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ร่วมกับทีมจิตอาสา กฟผ. ลงพื้นที่ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.น่าน ให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย พร้อมเตรียมขยายผลไปยังพื้นที่ จ.เชียงราย ในสัปดาห์หน้า

วานนี้ (27 กันยายน 2567) นายเทวา ปัญญาบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ดร.กมล ตรรกบุตร ประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา นายไชยยศ ตั้งวรกุลชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับทีมจิตอาสาของ กฟผ. บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ภายใต้โครงการซ่อมแซม ระบบไฟฟ้า เพื่อฟื้นฟูแก่ผู้ประสบอุทกภัย นำร่องลงพื้นที่ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.น่าน


นายไชยยศ ตั้งวรกุลชัย ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ. กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดว่า ขณะนี้ทีมจิตอาสา กฟผ. จากฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ ฝ่ายบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เอ็กโก กรุ๊ป รวมถึง PEA ในนามมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา กว่า 70 คน แบ่งเป็น 19 ทีม ได้ลงพื้นที่ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ของ จ.น่าน ได้แก่ อ.เมืองน่าน อ.ท่าวังผา และ อ.เวียงสา โดยพบว่าอุปกรณ์ไฟฟ้า อาทิ ปลั๊กไฟ สวิตซ์ไฟ อยู่ในสภาพเสี่ยงอันตรายจากไฟฟ้า เนื่องจากแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ดินโคลนเข้าไปอุดตัน มีกระแสไฟฟ้ารั่ว รวมถึงตัวอุปกรณ์บางส่วนชำรุดเสียหาย จึงดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ เช่น เบรกเกอร์ สวิตซ์ไฟ ปลั๊กไฟ และหลอดไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย

“กฟผ. ขอฝากความห่วงใยไปยังประชาชนที่ประสบอุทกภัยควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าก่อนใช้งาน หากมีข้อขัดข้อง หรือพบว่าปลั๊กมีปัญหาสามารถแจ้งมาที่เทศบาลหรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่ง PEA และ กฟผ. ได้ประสานงานเครือข่ายไว้แล้ว” นายไชยยศกล่าว


ด้าน ดร.กมล ตรรกบุตร ประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.น่าน นอกจากการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าร่วมกับทีมช่างจาก กฟผ. แล้ว ยังมีทีมงานจากสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารและสมาคมโครงสร้างไทยเข้าประเมินความเสียหายเรื่องโครงสร้างประตู หน้าต่าง เพื่อเสนอขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสำรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563

สำหรับวันนี้ (28 กันยายน 2567) กฟผ. ได้ส่งคืนพื้นที่บริเวณถนนเทศบาล 21 อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่บริเวณวัดถ้ำผาจมถึงตลาดสายลมจอย ระยะทาง 650 เมตร ให้แก่เทศบาลตำบลเวียงพางคำและเทศบาลแม่สาย หลัง กฟผ. และภาคีเครือข่ายดำเนินการทำความสะอาดฉีดล้างคราบโคลน และเก็บกวาดเศษขยะจากน้ำท่วมเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทางท้องถิ่นดำเนินการฟื้นฟูในส่วนอื่นต่อไป นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์หน้า กฟผ. จะประชุมร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา และ PEA เพื่อส่งทีมช่างจิตอาสาเข้าฟื้นฟูระบบไฟฟ้าในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งเป้าจำนวน 1,000 แห่ง เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมถึงเร่งแจกจ่ายถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด และน้ำดื่มน้ำใจ กฟผ. อีก 6,000 ขวด ให้แก่ประชาชนใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย.-​511.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]