ธอส.ประมูลขายบ้านมือสอง ครั้งที่ 3 ปีนี้ โกยรายได้กว่าพันล้านบาท

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – ธอส.ประมูลขายบ้านมือสอง ครั้งที่ 3/67 โกยรายได้กว่าพันล้านบาท จากบ้าน 886 รายการ ยอมรับประชาชนยังต้องการซื้อบ้าน


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการจัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 3/2567 จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นับว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก จำหน่ายบ้านมือสองได้ 886 รายการ มูลค่ารวม 1,015 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 420 รายการ รวมมูลค่า 539 ล้านบาท และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จำนวน 466 รายการ รวมมูลค่า 476 ล้านบาท โดยทรัพย์ประมูลขายได้ในราคาสูงสุด เป็นทรัพย์ประเภทแฟลต ขนาดเนื้อที่ 112 ตารางวา ในอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยสามารถประมูลขายได้ในราคา 7 ล้านบาท

เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก เหมาะสำหรับการพักอาศัย หรือซื้อเพื่อการลงทุน นอกจากนี้ยังมีทรัพย์ที่นำออกประมูลขายได้ในราคาต่ำสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขนาดเนื้อที่ 50 ตารางวา ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมูลขายได้ในราคา 50,000 บาท เท่านั้น!! ขณะที่ทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมประมูลสูงถึง 12 ราย ได้แก่ ทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ขนาดเนื้อที่ 31.25 ตารางเมตร ในเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยสามารถประมูลขายได้ในราคา 2.88 ล้านบาท จากราคาประมูลเริ่มต้นที่ 2.23 ล้านบาท


พิเศษสำหรับผู้ชนะการประมูลซื้อทรัพย์ในงาน รับฟรีของรางวัลมากมาย ประกอบด้วย รางวัลที่ 1 จักรยานไฟฟ้า จำนวน 6 รางวัล สำหรับผู้ที่ชนะการประมูลซื้อทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และปิดประมูลสูงสุด อันดับ 1 – 6 (1 คน/1 รางวัล), รางวัลที่ 2 เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย จำนวน 6 รางวัล สำหรับผู้ที่ชนะการประมูล ซื้อทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และปิดประมูลสูงสุดอันดับ 7 – 12 (1 คน/1 รางวัล) และรางวัลที่ 3 ไฟส่องสว่าง Solar Cell LED จำนวน 130 รางวัล สำหรับผู้ที่ชนะการประมูลซื้อทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งทำสัญญาจะซื้อจะขาย 59 รายแรก (1 คน/1 รางวัล) และสำหรับผู้ที่ชนะการประมูลซื้อทรัพย์ ณ ที่ทำการสาขาที่ตั้งทรัพย์ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยทำสัญญาจะซื้อจะขาย 71 รายแรก (1 คน/1 รางวัล) ทั้งนี้

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือดูข้อมูลบ้านมือสอง ธอส.ได้ที่ www.ghbhomecenter.com และ Mobile Application : GHB ALL HOME. -515-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”