กรุงเทพฯ 21ก.ย.- “พิชัย” จับมือผู้นำเข้ารายใหญ่สหราชอาณาจักร “เอเชียนซูเปอร์มาร์เก็ต” ขยายตลาดสินค้าไทยเพิ่ม และลงนาม MOU ก้าวสำคัญทางการค้า “ไทยกับสหราชอาณาจักร” ยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางการค้า
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักร เข้าพบผู้บริหารกลุ่ม วิง ยิป เอเชียนซูเปอร์มาร์เก็ต วางแผนความร่วมมือนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินค้านวัตกรรม สินค้ารักษ์โลก ขยายตลาดความต้องการของลูกค้าในสหราชอาณาจักรและยุโรป
ห้างเอเชียนซูเปอร์มาร์เก็ตวิง ยิป ผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากเอเชียมากกว่า 4,500 รายการ ยอดขายมากกว่า 4,500 ล้านบาทต่อปี และมีสินค้านำเข้าจากประเทศไทยมากกว่า 1,000 รายการ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท/ปี อาทิ อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรสอาหารแช่แข็ง เครื่องดื่ม ข้าวหอมมะลิและอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 นายพิชัย และนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ (The Rt Hon Douglas Alexander) รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น(Enhanced Trade Partnership: ETP) อันจะเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าของไทยกับสหราชอาณาจักร และเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเจรจาเอฟทีเอระหว่างกันในอนาคตด้วย ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่า 140,000 ล้านบาท เป็นสินค้าอาหารมากกว่า 28,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ซึ่งแนวโน้มขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายพิชัยยังกล่าวในงานสัมมนา “ยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-สหราชอาณาจักรสู่ระดับใหม่” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน โดยได้กล่าวยินดีที่จะได้สานต่อความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร ซึ่งในปีหน้าจะครบรอบ 170 ปี
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยมุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ซึ่งจัดตั้งขึ้นหลัง Brexit ถือเป็นเวทีอย่างเป็นทางการสำหรับการเจรจาทางเศรษฐกิจระดับสูงระหว่างสองประเทศ โดยผ่านทาง JETCO ไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาโรดแมพหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร กระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
หลังจากที่ไทย-สหราชอาณาจักร ได้บรรลุอีกหนึ่งก้าวสำคัญด้วยการลงนามในความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่เพิ่มพูน (Enhanced Trade Partnership – ETP) ETP จะช่วยปลดล็อกศักยภาพของความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ครอบคลุมกว่า 20 ภาคส่วนสำคัญ รวมถึงการค้าดิจิทัล การเกษตร ความยั่งยืน และเทคโนโลยี แผนงานที่แนบมากับ ETP ระบุถึงกิจกรรมร่วมที่ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการในภาคส่วนเหล่านี้ตลอดสองปีข้างหน้า โดย รัฐบาลไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการค้า การลงทุน และการทูตเชิงรุกอย่างเต็มที่
สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยมาโดยตลอด ในปี 2566 การค้าทวิภาคีไทย-สหราชอาณาจักร มีมูลค่าถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา รมว.พาณิชย์ ได้เชิญชวนให้นักธุรกิจสหราชอาณาจักรมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งจะช่วยปรับโครงสร้างการส่งออกของไทยให้ทันสมัย เพิ่มการค้าการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และการจ้างงาน .-511 -สำนักข่าวไทย