กกพ.หวังนำเงินประกันไฟฟ้าภาคธุรกิจ 5.7 หมื่นล้าน คืนเอกชน

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – บอร์ด กกพ.หวังนำเงินประกันไฟฟ้าภาคธุรกิจ 5.7 หมื่นล้าน คืนเอกชน หารือร่วม กฟน.-กฟภ.แต่ยังไม่จบ เพราะหากคืนเงิน อาจเกิดปัญหาความเสี่ยงของภาครัฐในกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ชำระค่าไฟฟ้า


นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ครั้งที่ 35/2567 (ครั้งที่ 920) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 มีมติให้สำนักงาน กกพ. และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ร่วมกันศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทบทวนและวางแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการวางหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 กิจการขนาดกลาง ประเภท 4 กิจการขนาดใหญ่ ประเภท 5 กิจการเฉพาะอย่าง และอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของไทย มีรูปแบบเป็นการให้บริการไฟฟ้ากับผู้ใช้ไฟฟ้าก่อนแล้วจึงเรียกเก็บเงินภายหลัง ดังนั้น จึงกำหนดให้มีการเรียกเก็บประกันการใช้ไฟฟ้า เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงของภาครัฐในกรณีที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ชำระค่าไฟฟ้า ล่าสุดจากการประชุม ร่วมกัน มีความเห็นว่าข้อมูลที่ได้รับยังไม่เพียงพอต่อการพิจารณาเพื่อตัดสินใจ จึงจะร่วมกันศึกษาข้อมูลหรือ Profile ในเชิงลึกของธุรกิจต่างๆ ที่เป็นลูกค้าทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์ประเด็นปัญหาและความเสี่ยงของธุรกิจแต่ละประเภท และนำเสนอ กกพ. เพื่อประกอบการพิจารณามูลค่าหลักประกันการใช้ไฟฟ้าต่อไป


เบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายพบว่า ปัจจุบัน กฟภ. มีหลักประกันการใช้ไฟฟ้าในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 , 4 และ 5 ทั้งในรูปแบบเงินสด พันธบัตร และหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) มีมูลค่ารวมกันประมาณ 44,000 ล้านบาท เป็นสัดส่วนเป็นพันธบัตร และ Bank Guarantee กว่า 77%

สำหรับ กฟน.มีเงินประกันการใช้ไฟฟ้าในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 , 4 และ 5 ประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินสด ประมาณ 30% และที่เหลือเป็น Bank Guarantee โดย กฟน. และ กฟภ. ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์จากเงินประกันการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3 , 4 และ 5 โดยได้ฝากหลักประกันที่เป็นเงินสดไว้กับธนาคารเพื่อกันเงินดังกล่าวไว้เพื่อรอคืนและชำระคืนดอกเบี้ยให้แก่ผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าเท่านั้น. -511-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว