สภาพัฒน์ เผยลดค่าต๋งแบงก์

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – สภาพัฒน์แนะลดเงินส่งกองทุนฟื้นฟูฯ นำเงินช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เสนอป้องกันภัยคุกคามทางเพศออนไลน์


นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า จากแนวคิดการเสนอให้ลดนำส่งเงินสมทบกองทุนเพื่อฟื้นฟูสถาบันการเงิน (FIDF) และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จากปัจจุบัน ร้อยละ 0.46-0.47 ให้ลดลงครึ่งหนึ่ง เพื่อนำเงินไปช่วยลดหนี้ครัวเรือนให้กับประชาชน นั้น ต้องหารือกันระหว่างกระทรวงการคลังกับ ธปท. จะทำให้การชำระเงินต้นลดลง มองว่าควรเป็นมาตรการเฉพาะกลุ่มแบบเจาะจง เช่น เป็นการช่วยลูกหนี้บ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือหนี้รถผ่อนชำระเพื่อใช้ประกอบอาชีพ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหา “อันตรายบนศีลธรรม” (Moral Hazard) ในสังคมไทย

สำหรับปัญหาหนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 1 หนี้สินครัวเรือน 16.37 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.5 ชะลอลงจากร้อยละ 3 ในไตรมาสก่อน และคิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพีร้อยละ 90.8 ลดลงจากร้อยละ 91.4 ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากธนาคารเข้มงวดอนุมัติปล่อยกู้ หลังจากหนี้ NPLs ต่อสินเชื่อรวมไตรมาส 2 ปี 67 อยู่ที่ร้อยละ 8.5 สูงต่อเนื่อง และจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ความสามารถจ่ายหนี้บัตรเครดิตลดลง หนี้ NPL ของหนี้บัตรเครดิตปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.5 ในไตรมาสก่อนเพิ่มเป็นร้อยละ 4.13 ในไตรมาส 2


สภาพัฒน์ ยอมรับว่า สังคมไทยการขาดความรู้ถึงเรื่องสิทธิ์ของเด็กและผู้ปกครอง และการไม่ทราบช่องทางการช่วยเหลือ จากรายงานของ UNICEF ปี 2565 พบว่า เด็กและเยาวชน ร้อยละ 47 ไม่ทราบถึงช่องทางการช่วยเหลือ หากตนเองหรือเพื่อนถูกล่วงละเมิด/คุกคามทางเพศออนไลน์ บางส่วนมองว่าตนไม่ใช่ผู้เสียหาย รวมถึงเด็กและเยาวชนบางส่วนมีความรู้สึกอับอายไม่กล้าเปิดเผยข้อมูล ส่งผลให้การแจ้งความดำเนินคดีที่น้อยกว่าความเป็นจริง จึงเสนอมาตรการป้องกัน และแก้ไขอย่างจริงจัง ได้แก่ 1) สร้างทัศนคติในการป้องกันการเพิกเฉยต่อการคุกคามทางเพศ โดยเริ่มต้นจากสถาบันครอบครัว ต้องสอดส่องดูแลพฤติกรรมการใช้สื่อ ในขณะที่ระดับชุมชนและภาครัฐจะต้องมีมาตรการในการลงโทษที่ชัดเจน 2) การให้ความรู้ด้านสิทธิและความเสี่ยงจากการถูกคุกคามทางเพศออนไลน์ โดยสถาบันการศึกษา และชุมชน และ 3) สร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยคุกคามดิจิทัล เนื่องจากการคุกคามทางเพศเด็กออนไลน์มีรูปแบบใหม่และเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ครอบครัวควรให้ความรู้เกี่ยวกับการไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่สถานบันการศึกษาควรให้ความรู้เกี่ยวกับการล่อลวงทางเพศให้เป็นความรู้พื้นฐานหรือเป็นหลักสูตร.-515 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย