กรุงเทพฯ 21ส.ค.- ปตท.ย้ำ ยังคงนโยบายในการถือหุ้นในบริษัท flagship ต่างๆ ในสัดส่วนที่ ปตท. สามารถควบคุมได้ เพื่อกำหนดทิศทางให้สอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งกลุ่มปตท.
หลังจากราคาหุ้นบริษัทในกลุ่ม ปตท.ในส่วนของธุรกิจขั้นปลายทั้งโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีร่วงลงในวันนี้(21ก.ค.)
ฝ่ายสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ออกมาชี้แจงว่า ปตท. มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจ Hydrocarbon เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน สร้างการเติบโต ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสมดล ผ่านการทํา Carbon Capture and Storage และHydrogen ซึ่งจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ทั้งนี้ ปตท. มีการทบทวน ปรับปรุง กลยุทธ์รูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ตามสภาวะการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป อาทิ การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งในส่วนที่ ปตท. มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินการ และผ่านการแสวงหา Partner เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยกลุ่มปตท. ลงทุนในธุรกิจ Hydrocarbon ตลอด Value Chain ทั้งที่ดำเนินการเองและที่
ดำเนินการผ่านบริษัทในกลุ่ม ทั้งธุรกิจสำรวจและผลิต, ก๊าซธรรมชาติ, LNG, การกลั่น, ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์,
น้ำมันและการค้าปลีก และไฟฟ้า ซึ่ง ปตท. ยังคงนโยบายในการถือหุ้นในบริษัท flagship ต่างๆ ในสัดส่วนที่ ปตท.
สามารถควบคุมได้ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมายของทั้งกลุ่มปตท. เนื่องจากบริษัท
Flagship ทั้งหลายล้วนเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของ ปตท.-511สำนักข่าวไทย