fbpx

นักวิชาการชี้ทางรอดเศรษฐกิจไทยเกาะกลุ่มอาเซียนโตไปด้วยกัน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – นักวิชาการมองจุดยืนและจุดแข็ง “ASEAN” ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยปัจจัยรุมเร้า แต่มั่นใจ ASEAN ยังเข้มแข็งดีต่อได้ และจับตาผลเลือกตั้งประธานาบดีสหรัฐคนใหม่อาจทำให้สงครามการค้าสหรัฐและจีนรอบใหม่กลับมา ด้านซีไอเอ็มบี ไทยไม่รอช้า นำพาลูกค้าไปโตอาเซียน ปลื้มยอดปล่อยสินเชื่อปี 67 เกือบ 1 แสนล้านบาท ฟันธงเศรษฐกิจไทยปี 67 โตแน่ 2.3 ดอกเบี้ยนโยบายลดลง ธ.ค.นี้


ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวในงานแถลงข่าว “Think ASEAN, Think CIMB” จัดขึ้นโดย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เพื่อฉลองวันแห่งอาเซียนซึ่งตรงกับวันที่ 8 เดือน 8 ของทุกปี ว่า “ท่ามกลางสถานการณ์โลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะมาถึง ดูจะส่งผลต่อการเติบโตใน ASEAN อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ นโยบายภาพใหญ่ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ไม่น่าแตกต่าง เพราะนับตั้งแต่เกิดสงครามการค้า สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนลดลงเรื่อยๆ โดยอาเซียนได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เมื่อจีนส่งออกไปสหรัฐไม่ได้ อิทธิพลการค้าจีนกับอาเซียนเพิ่มเป็นทวีคูณ ขณะเดียวกัน อาเซียนหลายประเทศเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากขึ้นแม้แต่สิงคโปร์ที่ขาดดุลการค้ากับสหรัฐก็ขาดดุลลดลง ส่วนสหรัฐก็ขาดดุลการค้ากับอาเซียนมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ อาเซียนรับมือกับสงครามการค้าครั้งใหม่ได้ไม่ดีพอ การค้าโลกที่มีความเสียงจะลดลงอาจกระทบกับการค้าและการเชื่อมโยงด้านการลงทุนของอาเซียนได้ ซึ่งประโยชน์และผลกระทบที่แต่ละประเทศจะได้รับขึ้นอยู่กับจปัจจัยภายในของแต่ละประเทศ เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ความน่าดึงดูดในการลงทุน และสิ่งอำนวยความสะดวกจากภาครัฐ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั่วโลก ลดลง 2% สู่ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566 ท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความดึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้าพิจารณาไส้ใน พบว่า FDI ในประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้น 1% เป็น 2.26 แสนล้านดอลลาร์ สิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้รับ FDI มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยอินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ตามรายงานการลงทุนโลกปี 2567 โดย UNCTAD สะท้อนภาพชัดว่าโลกกำลังย้ายฐานการผลิตมา ASEAN


อย่างไรก็ตาม แม้มีปัจจัยลบหลายด้านที่เกิดขึ้น แต่ในส่วนการค้า การลงทุนของไทยยังมีโอกาสเติบโต แม้จะไม่สูงไปมาก โดยจีดีพีของไทยปี 67 จะเป็นบวกและโตได้ 2.3 % และสิ่งที่คาดหวังโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเดือนธันวาคมนี้เป็นไปได้ โดยคาดว่าจะปรับลดจาก 2.5 % เหลือ 2.25 % โดยมีแรงหนุนจากนโยบายด้านการคลังที่ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 68 อีกด้วย

นายวุธว์ ธนิตติราภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทธุรกิจและธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทยกล่าวว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ทำให้การพึ่งพาทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนลดลง และหันมาทำการค้ากับประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ทำธุรกิจกับคู่ค้าใหม่ๆ ในตลาดโลกมากขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ของทางสหรัฐและของโลกยังมีการเติบโตอย่างต่อเนี่ยง จึงเป็นโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทยที่มีความพร้อม ได้มีโอกาสที่จะเติบโตและขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนเช่นเดียวกัน ดังนั้น ประเทศปลายทางที่น่าลงทุนที่สุดตอนนี้ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เริ่มจาก มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่คนไทยเข้าถึงง่ายที่สุด กำลังโดดเด่นในภาคบริการและการผลิตสินค้าที่อาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยปี 2566 มีเงินลงทุนไหลเข้ามาเลเซียกว่า 3.29 แสนล้านริงกิด เติบโดสูงขึ้น 23%

อย่างไรก็ตาม จากปีก่อนหน้า นับเป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ส่วนสินค้าส่งออกของมาเลเซียหลัก ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ปีโดรเลียม ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันปาล์ม และอุปกรณ์โทรคมนาคม ถัดมา อินโดนีเซีย ที่มีจุดเด่นเรื่องของการเติบโตของประชากรที่ปัจจุบันมีกว่า 280 ล้านคน และมีการเดิบโตของ GDP อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มความต้องการสินค้าอุปโภคและบริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2566 อินโดนีเซียบันที่กเงินลงทุนไหลเข้า จำนวน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% โดยแหล่ง FDI ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเชียได้แก่ สิงคโปร์จีน และฮ่องกง โดยอุตสาหกรรมโลหะพื้นฐานได้รับ FDI เยอะที่สุด สินค้าส่งออกหลักของอินโดนีเซีย คือ ถ่านหิน น้ำมันปาล์ม เหล็กและเหล็กกล้า


สิงคโปร์ ที่เป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าของภูมิภาค ในปี 2566 สิงคโปร์ มี FDI มูลค่าสูงถึง 2.14 แสนล้าน สิงคโปร์ดอลลาร์ เติบโต 10% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของทุนจดทะเบียนและกำไรสะสม โดยประเทศที่มีการลงทุน สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ จีน ญี่ปุ่น และช่องกง โดยส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดของ FDI อยู่ในภาคบริการทางการเงินและการประกันภัย ส่วนสินค้าส่งออกหลัก คือ ปิโตรเลียม เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์

ทั้งนี้ ประเทศไทย ช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2567 นักลงทุนต่างชาติและในประเทศยื่นคำขอส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOl) เพิ่มขึ้น 35% มูลค่ารวม 4.58 แสนล้านบาท โดยในครึ่งแรกของปี 2567ภาคอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ครองอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าการลงทุน 1.39 แสนล้านบาท (30.5% ของมูลค่าการขอลงทุนรวมของ BO1) รองลงมาคือภาคยานยนต์ 3.99 หมื่นล้านบาท (8.7% ของมูลค่ารวม) และเกษตรกรรมขั้นสูง 3.31หมื่นล้านบาท (7.2% ของมูลค่ารวม)

นายวุธว์ กล่าวเสริมว่า “ในส่วนของ Mega Trend ที่น่าจับตามองในช่วงนี้มี 4 กลุ่มหลักได้แก่ 1. Sustainability หรือการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน โดยที่ผ่านมาเราจะเห็นตลาดเกิดใหม่ไม่ว่าในเรื่องของพลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า หรือผลิตภัณฑ์รีไซเคิล เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 2. AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถนำมาพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการผลิตได้ในทุกภาคส่วน ทำให้เกิดความต้องการที่เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง 3. Food Security หรือความมั่นคงทางอาหารเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ประเทศใหญ่ๆ หันมาให้ความสำคัญกันมากโดยเฉพาะประเทศที่มีประชากรและการเติบโตของประชากรสูง 4. Consumer Behavior หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่เน้นเรื่องของความสะดวกรวดเร็วและเข้าถึงแหล่งข้อมูลของสินค้าที่ต้องการโดยง่าย ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้เหมาะกับความต้องการของ ผู้บริโภคยุดใหม่

อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่กำลังมาบวกกับจุดเด่นของภูมิภาคอาเซียน ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ให้ทางภาคธุรกิจอย่างแน่นอน และ CIMB ก็พร้อมให้การสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตไปในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน มีผู้เชี่ยวชาญ ที่มี Know-how และ Network ทำงานประสานใกล้ชิดกับคนท้องถิ่นที่รู้จักตลาดเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็น ASEAN total solutions และที่สำคัญขณะนี้ซีไอเอ็มบี ไทยอยู่ระหว่างเจรจาด้านการปล่อยสินเชื่อธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติมทัังลูกค้าเก่าและใหม่สูงถึง 300-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะอยู่ในกลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่ม AI และกลุ่มอาหาร แต่ก่อนหน้านี้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 2,000 ล้านดอลาร์สหรัฐ ทำให้ปีนี้ ซีไอเอ็มบี ไทยยอดการปล่อยสินเชื่อรวมยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะมียอดรวมเกือบ 100,000 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 80,000-90,000 ล้านบาท

น.ส.ปนิดา ตั้งศรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันการเงินประเทศไทย และ CLMV ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า “การเติบโตของธุรกิจในอาเซียน สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือเม็ดเงินที่จะเข้าไปสนับสนุน ทั้งการเข้าไปลงทุนโดยตรง (direct investment) การลงทุนผ่านหลักทรัพย์ด่างๆ หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือ หุ้นกู้ (indirect investment) อย่างไรก็ดีประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน ยังดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนอย่างระมัดระวัง และมีกฎเกณฑ์ในการเคลื่อนย้ายเงินทุน ค่อนข้างเข้มงวด นักลงทุนที่เห็นโอกาสเติบโต จึงมองหาธนาคารที่เข้าใจกฎเกณฑ์เหล่านี้ และให้คำแนะนำได้ดีที่สุด อีกทั้ง มีเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ดูแลค่าเงินและดอกเบี้ยที่มีความผันผวนสูง ให้ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง CIMB ตอบทุกความต้องการ

นอกจากนี้ CIMB Group และ CIMB THAI ยังได้รับความไว้วางใจในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้บริการ Cross-border QR Payment ความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มุ่งเน้นส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ปัจจุบัน ผู้ที่เดินทางไป 7 ประเทศในอาเซียน (Malaysia, Indonesia, Singapore, Thai, Cambodia, Vietnam, Lao) รวมถึงฮ่องกงและญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด เพราะสามารถใช้จ่าย โดยสแกน QR ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารในประเทศไทย และชำระเงินได้ทันที โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นหนึ่งในธนาคารที่ร่วมผลักดันโครงการนี้ ระหว่างไทย-มาเลเซีย และ ไทย-อินโดนีเซียเป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน