ครม.มอบ ธ.ออมสิน ปล่อยกู้ช่วยรายย่อย เอสเอ็มอีกว่าแสนล้าน

ก.คลัง 16 ก.ค. – ครม.มอบ ธ.ออมสิน ปล่อยกู้ช่วยรายย่อย เอสเอ็มอีกว่าแสนล้านบาท หวังลดต้นทุน ดึงเข้าแหล่งทุนในระบบ ดัน GDP เพิ่มร้อยละ 0.27


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ต้นทุนการผลิตและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กระทบค่าครองชีพของประชาชน ต้นทุนในการประกอบอาชีพปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กลุ่ม SMEs มีกำไรลดลงและประสบกับปัญหาด้านสภาพคล่องจากการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ

กระทรวงการคลังเล็งเห็นว่าหากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจไทย ที่ประชุม ครม.จึงมอบหมายให้ธนาคารออมสินออกโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.โครงการให้สินเชื่อตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนรายย่อย เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ประกอบด้วย โครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำภาคอสังหาริมทรัพย์ 4 มาตรการ แบ่งเป็น สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์รวม 2 มาตรการ ได้แก่ สินเชื่อ GSB D-Home กระตุ้นเศรษฐกิจ และสินเชื่อ GSB D-Home สร้างบ้านเพื่อคนไทย และสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ ได้มีทุนก่อสร้างโครงการบ้าน รวมทั้งดูแลกลุ่มประชาชนรายย่อยรวม 2 มาตรการ ได้แก่ สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย และสินเชื่อ Top Up เพื่อให้รายย่อยสร้างบ้านด้วยตนเอง หรือจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านเพิ่มเติม


นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อบรรเทาผลกระทบและแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนด้วยการ Refinance สินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูงในตลาด มาใช้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของธนาคารออมสิน ภายใต้โครงการ “สินเชื่อรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” จำนวน 4 มาตรการ แบ่งเป็น สินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับกลุ่มลูกค้าฐานราก รวม 2 มาตรการ ได้แก่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Re-Nano) และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนบุคคล (Re P-loan) และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อยบุคคล รวม 2 มาตรการ ได้แก่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต (Re-Card) และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย (Re-Home)

  1. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ GSB Boost Up โดยธนาคารออมสินสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 100,000 ล้านบาท ให้แก่สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี ในระยะเวลา 2 ปี วงเงินต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน SMEs ยื่นขอสินเชื่อได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 โดยใช้เงื่อนไขเดียวกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรองรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์

ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs หวังให้เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่า โครงการดังกล่าวของธนาคารออมสิน ช่วยสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ได้ประมาณร้อยละ 0.27. -515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น