นายกฯ ดันไทยเป็นศูนย์กลางฮาลาลอาเซียน ปี 2570

ทำเนียบ 15 ก.ค.- นายกฯ เดินหน้าส่งเสริมให้ไทยมีส่วนในกระบวนการเพื่อความมั่นคงทางอาหารของโลก ยกระดับไทยสู่การเป็นศูนย์กลางฮาลาลอาเซียนในปี 2570 พร้อมจัดตั้ง Thailand Halal Valley ตั้งเป้าเพิ่ม GDP ภาคอุตสาหกรรม 5.5 หมื่นล้านบาท


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผลักดันศักยภาพสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหาร และเตรียมความพร้อมด้านความมั่นคงทางอาหารของโลก ผ่านมาตรการ กลไกการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งรวมทั้งการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนให้ไทยมีส่วนการส่งออกสินค้าประเภทอาหารในตลาดฮาลาล ซึ่งรัฐบาลโดยคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติได้กำหนดแนวทาง เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ และตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 1.2 คิดเป็นมูลค่า 55,000 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารของโลก พบว่า ประเทศผู้นำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารรายสำคัญของไทย ได้ดำเนินมาตรการความมั่นคงทางอาหารโดยการพึ่งพาตนเองมากขึ้น ทำให้ไทยปรับแผนกำหนดกลไกพัฒนาระบบเกษตรและอาหารที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านความมั่นคงทางอาหาร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านอาหารของโลก โดยเฉพาะด้านอาหารฮาลาล ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้น และนับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้


ทั้งนี้ ข้อมูลจากคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติพบว่า การส่งออกอาหารฮาลาลไทยปี 2566 ขยายตัว 4.0% เป็นมูลค่า 222,289 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2567 – 2570) ซึ่งจะยกระดับไทยสู่การเป็นศูนย์กลางฮาลาลของอาเซียน ภายในปี 2570 และทำให้ GDP ของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 1.2 คิดเป็นมูลค่า 55,000 ล้านบาท รวมถึงกำหนดผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลเป้าหมาย (ระยะแรก) ครอบคลุม 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1) อาหารฮาลาล เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล 2) แฟชั่นฮาลาล เช่น สิ่งทอ อัญมณี เครื่องหนัง 3) ยา สมุนไพร เครื่องสำอางฮาลาล 4) โกโก้และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง และ 5) บริการและการท่องเที่ยวฮาลาล

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้วางกรอบการดำเนินงานเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าฮาลาลของไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากล ผ่าน 3 มาตรการ ดังนี้

1) การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตฮาลาลไทย ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ศักยภาพสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทย การขยายตลาดสินค้าและบริการอาหารฮาลาลไทยในประเทศและต่างประเทศ
2) การพัฒนาการผลิตและมาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทยต้นแบบ การยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมฮาลาลไทยเพื่อการส่งออก และ
3) การยกระดับปัจจัยแวดล้อมอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศอัจฉริยะอุตสาหกรรมฮาลาล (Halal Intelligence Unit: Halal IU) เป็นฐานข้อมูลรายงานเชิงลึกและวิเคราะห์ตลาด การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งประเทศไทย (Thailand Halal Valley) ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศ การพัฒนาห้องปฏิบัติการทดสอบผลิตภัณฑ์ฮาลาลไทย และพัฒนาฝีมือแรงงานและบุคลากรฮาลาลไทย


“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพของสินค้าและอาหารฮาลาลของไทย ประกอบกับมีวิสัยทัศน์ที่เกิดจากการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดอาหารฮาลาลซึ่งมีอัตราเติบโตมากอย่างต่อเนื่อง จึงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลไทยสู่สากล นำเสนอสินค้าอาหารฮาลาลไทยให้มิตรประเทศ ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางฮาลาลอาเซียนภายในปี 2570 ตลอดจนเดินหน้าต่อยอดให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหารของโลก เพื่อผลักดันให้เกิดโอกาสแก่เกษตรกร ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมอาหาร กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายราย เพื่อพี่น้องคนไทย และเศรษฐกิจไทย” นายชัย กล่าว .314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ