พาณิชย์เผยข่าวดีอาหารมังสวิรัติไทยขายดีในตลาดเนเธอร์แลนด์

นนทบุรี 6 มิ.ย. – อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุชาวเนเธอร์แลนด์นิยมบริโภคอาหารมังสวิรัติเพิ่มมากขึ้น เหตุใส่ใจสุขภาพ และต้องการปกป้องสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาความต้องการและนำมาปรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของไทย มั่นใจขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นแน่


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสาวชนรรค์ดา สรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ถึงแนวโน้มการบริโภคอาหารมังสวิรัติของชาวเนเธอร์แลนด์ที่ได้เป็นอาหารมื้อหลักมากขึ้น และโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารของไทยชเข้าสู่ตลาดเนเธอร์แลนด์

ทั้งนี้ ตามรายงานของทูตพาณิชย์ ของสำนักงานสถิติแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า หนึ่งในสี่ของอาหารมื้อหลักทั้งหมดที่ผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์บริโภคในปีที่ผ่านมาเป็นอาหารมังสวิรัติ โดยร้อยละ 22 ของผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์ยังคงรับประทานเนื้อสัตว์ แต่เลือกที่จะปรับเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์หรือปลาอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ และร้อยละ 43 ของผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์เลือกรับประทานอาหารมังสวิรัติ 1 หรือ 2 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มาจากเรื่องสุขภาพ และการป้องกันเรื่องสภาพภูมิอากาศจากการเลี้ยงสัตว์


อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังพบว่า ผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติบ่อย เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ร้อยละ 32 เป็นผู้ที่มีพื้นฐานการศึกษาวิชาชีพระดับสูง และร้อยละ 19 เป็นผู้ที่มีการศึกษาสายอาชีพระดับกลางหรือการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และยังพบว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 25–35 ปี มักจะรับประทานอาหารมื้อหลักเป็นอาหารมังสวิรัติ และผู้บริโภคผู้หญิงมักเลือกที่จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์หรือทานอาหารมังสวิรัติมากกว่าผู้ชาย


นายภูสิตกล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์ ให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น ทำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค โดยหันไปบริโภคอาหารที่ทำจากพืชหรือผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนเนื้อสัตว์มากขึ้น และลดการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคจะลดการบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงอย่างต่อเนื่องด้วยเหตุผลทั้งเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดีขึ้นด้วย

“หากผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย สามารถปรับตัวและพัฒนา รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ให้มีคุณภาพและรสชาติที่ดีขึ้น สามารถตอบโจทย์ความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคได้ คาดว่าผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ของไทย จะสามารถเจาะตลาดและขยายตลาดในเนเธอร์แลนด์และยุโรปได้มากขึ้น แต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติและเนื้อสัมผัส เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภค”นายภูสิตกล่าว.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน