กรุงเทพฯ 30 พ.ค.-ราคาดีเซลขยับขึ้นอีก 50 สตางค์/ลิตร พรุ่งนี้ ชนเพดานราคาดูแลตามมติ ครม.ไม่เกิน 33 บาท/ลิตร จนถึง 31 ก.ค.67 สาเหตุขึ้นครั้งนี้เพราะค่าการตลาดปั๊มน้ำมันตกต่ำ ทางกองทุนน้ำมันฯไม่ได้ ลดการอุดหนุน โดยยังชดเชยดีเซลที่ 1.40 บาท/ลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ ในขณะที่ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงชดเชยเงินในส่วนของน้ำมันดีเซลอยู่ 1.40 บาทต่อลิตร แต่จากราคาตลาดโลกพุ่งขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ผู้ค้าน้ำมันเหลือค่าการตลาดเพียง 1.30 บาท/ลิตร เป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 วางกรอบารตรึงราคา น้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567
ดังนั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมัน (กบน.) จึงพิจารณา ไม่ลดการอุดหนุนดีเซล ยังคงตรึงราคาที่ 1.40 บาท/ลิตรต่อไป แต่จากภาวะดังกล่าว และเพื่อให้ตลาดน้ำมันเดินหน้าไปได้ ทางผู้ค้าน้ำมัน จึงปรับขึ้นราคากลุ่มดีเซล 50 สตางค์/ลิตร ราคาขยับเพิ่มเป็น 32.94 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ทำให้ผู้ค้าได้ค่าการตลาดที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การตรึงการชดเชยดีเซลไว้ที่ 1.40 บาท/ลิตร กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภท น้ำมันดีเซลประมาณวันละ 96.29 ล้านบาท ฐานะภาพรวมกองทุนฯมีเงินเงินไหลออก ในส่วนบัญชีน้ำมันวันละ 2.37 ล้านบาท ส่วนบัญชีก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีเงินไหลเข้าวันละ 7.19 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,690 ล้านบาท
“รัฐบาลมีนโยบายการดูแลค่าครองชีพมาโดยตลอด พร้อมๆกับดูแลตลาดน้ำมัน เพื่อให้มีน้ำมันเพียงพอไม่ขาดแคลน ซึ่ง ในส่วนของกองทุนฯจะต้องเริ่มจ่ายเงินต้นกู้ยืม กว่า 1 แสนล้านบาทใน เดือน พ.ย.นี้ ในลำดับต่อไปก็คงต้องดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอและนำไปใช้หนี้ พร้อมๆกับดูแลประชา” แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุ.-511-สำนักข่าวไทย