“มนพร” ร่วมแสดงความยินดี กทท. ครบรอบ 73 ปี

กรุงเทพ 16 พ.ค.-การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 73 ปี มอบเงินบริจาคโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ 36 ล้านบาท แจงผลประกอบการกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.34 เดินหน้าสานต่อนโยบายท่าเรือสีเขียวเพื่อความยั่งยืน ส่วนการย้ายท่าเรือคลองเตย “สุริยะ”จะเรียกประชุมภายในเดือนนี้


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนา กทท. ครบรอบ 73 ปี โดย กทท.ได้มอบเงินสนับสนุนจัดหารถหน่วยคัดกรองมะเร็งนรีเวช มอบให้แก่มูลนิธิกาญจนบารมี จำนวน 36,720,400 บาท เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือสตรีกลุ่มเสี่ยงผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารให้สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งทางนรีเวช ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยมีดร.นายแพทย์สมยศ ดีรัศมี ประธานมูลนิธิกาญจนบารมี เป็นผู้รับมอบฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 9 โครงการเฉลิมพระเกียรติของกระทรวงคมนาคมในนามรัฐบาล นอกจากนี้ กทท. ได้มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศล ให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวน จำนวน 1,500,000 บาท วัดดอนทรายและโรงเรียนวัดดอนทราย สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย มัสยิดอิดารุลมีนา ชมรมผู้สูงอายุ กทท. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทท. หน่วยงานละ 300,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,000,000 บาท

นางมนพร กล่าวว่า กทท. ถือเป็นองค์กรสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วยการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ โดยใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการให้บริการเพื่อลดขั้นตอน ลดระยะเวลา ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมุ่งสู่ท่าเรือสีเขียว ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) จากกิจกรรมท่าเรือ โดยติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงพักสินค้าและอาคารในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ ส่งเสริมการใช้รถยกไฟฟ้า EV สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทดแทน ลดมลพิษปัญหาฝุ่นละอองในบริเวณพื้นที่


ในส่วนของการยกระดับการให้บริการและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ กทท. มีนโยบายพัฒนาท่าเรือกรุงเทพพัฒนาเป็น HUB ที่สำคัญของประเทศ โดยส่งเสริมให้ท่าเรือกรุงเทพเป็นศูนย์กลางการให้บริการร่วมกับท่าเรือเอกชนในแม่น้ำเจ้าพระยา (Chaophraya Super Port) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและเป็นศูนย์กลางการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ร่วมกับภาคเอกชน อีกทั้งยังดำเนินโครงการเขตปลอดอากร (Bangkok Port Free Zone) สร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า คาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินการ 6-7 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ได้มีแผนในการขยายขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้า คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าในอนาคต ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเรือฝั่งตะวันตกเป็นท่าเรือกึ่งอัตโนมัติ (Semi Automated Container Terminal) และโครงการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์เชื่อมโยงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport & Distribution Center)  

สำหรับโครงการที่ยังต้องสานต่ออีกหลายโครงการตามนโยบายการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Seamless Transport) ประกอบด้วย โครงการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งบริเวณท่าเรือ รองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าผ่านทางเรือชายฝั่งและทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในอนาคต รวมทั้งโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (SRTO) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 2 ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ในโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) เพื่อให้รถบรรทุกสินค้าสามารถระบายออกสู่ทางพิเศษอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และโครงการพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถบรรทุก (Truck Parking) และการจองคิวรถบรรทุกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Truck Queuing) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ส่วนความคืบหน้าของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 งานก่อสร้างทางทะเล ขณะนี้มีผลการดำเนินการสะสม ณ เดือนเมษายน 2567 คิดเป็น 27.25% ส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติเพื่อลงนามในสัญญาต่อไป ในส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟและส่วนที่ 4 งานจ้างเหมาสร้างเครื่องจักรฯ อยู่ระหว่างการสรรหาผู้รับจ้างเพื่อจัดทำเอกสารประกวดราคา อย่างไรก็ตาม กทท. ได้ติดตามเร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินการตามแผนงานอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้กระทบงานส่วนอื่น และส่งมอบแล้วเสร็จทั้งโครงการฯ ได้ตามกรอบระยะเวลาของสัญญา
 
ทั้งนี้ กทท. ยังมีแนวทางในการพัฒนาท่าเรือภูมิภาคในส่วนของท่าเรือระนอง โดยพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าเทียบเรือ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมขนส่งชายฝั่งอันดามัน กลุ่ม BIMSTEC สนับสนุนแลนบริดจ์ และเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ สำหรับท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน กทท. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการส่งออกสัตว์ปศุสัตว์ที่เป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชนและเกษตรกรที่อยู่บริเวณพื้นที่โดยรอบท่าเรือและอำเภอเชียงแสนตามนโยบายของรัฐบาล คาดว่าจะส่งผลให้ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนมีรายได้จากการดำเนินโครงการฯ เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10 ล้านบาท


ทั้งนี้กทท. มีส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมร้อยละ 85.21 โดยหากพิจารณาตามประเภทของท่าเรือ พบว่า ธุรกิจ Deep Sea Port มีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็นร้อยละ 86.34 และธุรกิจ River Port ร้อยละ 78.20 ด้านผลประกอบการในช่วงระยะเวลา 6 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2566 – มีนาคม 2567) มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง รวม 7,230 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.36 สินค้าผ่านท่า 58.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.85 และตู้สินค้าผ่านท่า 5.28 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.77 มีรายได้สุทธิ 8,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.97 กำไรสุทธิ 4,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.34 เทียบกับปีก่อนหน้า

นางมนพร กล่าวถึงการย้ายท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย)ด้วยว่า จะเป็นการพัฒนาที่ไม่ได้ย้ายทั้งหมด เพราะท่าเรือคลองเตยมีพื้นที่กว่า 2,300 ไร่ ต้องนำแผนแม่บทที่เคยศึกษามาแล้วมาพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน โดยภายในเดือนนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องจากจะมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากรวมทั้งชาวชุมชนท่าเรือคลองเตยที่มีประชากรมากถึง 13,000 ครัวเรือน ดังนั้นต้องฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่นี้ด้วย รวมทั้งจะมีโครงการปรับปรุงตลาดคลองเตยให้มีความทันสมัยรองรับการเติบโตในอนาคตเพราะปัจจุบันตลาดคลองเตยค่อนข้างจะแออัด มักจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถซึ่งจะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น/สำนักข่าวไทย-513

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย