กรุงเทพฯ 23 เม.ย.-2 ประเทศร่วมมือหนุนการค้า ไทย-หนานหนิง หวังสร้างโอกาสผู้ประกอบการทั้ง 2 ฝ่ายดันอุตสาหกรรมอนาคต ยานยนต์-พลังงานให้เติบโตยั่งยืน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวสุนทรพจน์ในงาน Nanning City Investment Environment Promotion and Economic and Trade Cooperation Exchange (Thailand) เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีน ด้านการค้าการลงทุน แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยกับนครหนานหนิง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานใหม่และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเป้าหมายการพัฒนาของทั้งประเทศไทยและจีน ที่ หอประชุม กวาง หวา ถัง หอการค้าไทย-จีน ชั้น 9 อาคารไทย ซีซี ทาวเวอร์ สาทรใต้ ช่วงค่ำวานนี้ (22 เม.ย. 67)
ทั้งนี้ ประเทศไทยและจีนมีความสัมพันธ์ยาวนาน ได้สร้างความผูกพันทางเศรษฐกิจและสังคมที่แข็งแกร่ง ปัจจุบัน จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงที่สุด เป็นเวลาติดต่อกันถึง 11 ปี (ตั้งแต่ปี 2556) ในปี 2566 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 105,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 ของมูลค่าการค้าไทย ในขณะที่การค้าระหว่างไทยและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ในปี 2565 ก็มีมูลค่ารวมถึง 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 4 ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไทยมีความตกลงทางการค้ากับจีนในทุกระดับ ตั้งแต่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน (หรือ ACFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (หรือ RCEP) รวมทั้งสนับสนุนโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (หรือ BRI) ตลอดจนจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการค้า (MOU) กับมณฑล/เมืองสำคัญของจีน 4 ฉบับ ได้แก่ ไทย-กานซู่ ไทย-ไห่หนาน ไทย-เซิ้นเจินและ ไทย-ยูนนาน ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจเชิงรุกไทย-จีน-อาเซียน เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และขับเคลื่อนการค้าเชิงรุกไปยังตลาดจีนและอาเซียน โดยไทยมีเป้าหมายจัดทำ MOU กับเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นมณฑลที่มีศักยภาพสูง เพื่อขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ไทยมีโอกาสขยายความร่วมมือสู่นครหนานหนิง ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China ASEAN Expo ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมการนำเข้าสินค้าตามนโยบายเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน และเป็นเวทีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับนานาประเทศ และยังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐผ่านการเยือนของผู้บริหารระดับสูงของไทย ตนก็ได้มีเข้าร่วมงาน China ASEAN Expo ครั้งที่ 20 เมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้พบปะหารือกับท่านประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (ท่านหลาน เทียนลี่) และท่านนายกรัฐมนตรี (ท่านหลี่ เฉียง) ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างไทย – จีน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐบาลไทยมีนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางนโยบายและการดำเนินงานของประเทศจีน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาระดับชาติของจีน อาทิ พื้นที่ระเบียงการค้าเชื่อมทางบกกับทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่(หรือ New International Land-Sea Trade Corridor)และเป็นประตูสู่อาเซียน โดยมีนครหนานหนิงเป็นเมืองศูนย์กลางเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้กว่างซีจ้วงและเป็น 1 ใน 3 ที่ตั้ง “เขตทดลองการค้าเสรีกว่างซีจ้วง” กิจกรรมวันนี้ จะเปิดโอกาสให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยเชื่อมโยงการเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานในอุตสหากรรมแห่งอนาคตนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจและสังคมของไทยและจีนต่อไป
นอกจากนี้ ภายในงานมี นายหนง เซิง เหวิน (Mr. Nong Sheng Wen) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครหนานหนิง น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายณรงศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายฟ่าน เซียวหมิน(Mr. Fan Xiao Min) รองนายกเทศมนตรีนครหนานหนิง และนางจาง เซียวเซียว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทยร่วมด้วย.-514-สำนักข่าวไทย