“ภากร” เชื่อปีนี้เป็น Turning Point ของตลาดหุ้นไทย

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 เม.ย.-“ภากร” เชื่อปีนี้น่าจะเห็นตลาดหุ้นไทยมี Turning Point จากแรงหนุนงบประมาณภาครัฐ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเมิน กนง. มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย ขณะที่เศรษฐกิจจีนฟื้นส่งผลดีต่อไทย ทั้ง “ส่งออก-ท่องเที่ยว”

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทาย มีปัจจัยความไม่แน่นอนเกิดขึ้นทั้งความขัดแย้งใน ตะวันออกกลาง รัสเซีย-ยูเครน และล่าสุด สถานการณ์ในเมียนมา สิ่งที่จำเป็นคือการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลอย่างมีเหตุผล โดยเชื่อว่าปีนี้น่าจะเห็นตลาดหุ้นไทยมีจุดกลับตัว (Turning Point) เนื่องจากมีแรงหนุนจากงบประมาณของภาครัฐออกมาแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อจากนี้


ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) มองว่ามีโอกาสที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยมากขึ้น หลังจากที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาชัดเจนมากขึ้น ประเทศออกมาเริ่มเห็นทิศทางที่มีโอกาสที่มีน้ำหนักในการลดดอกเบี้ยมากขึ้น รวมถึงมีเสียงสนับสนุนของกรรมการ กนง.ในการลดดอกเบี้ยออกมามากขึ้นในการประชุมครั้งก่อน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนต่อการฟื้นตัวกลับมาของตลาดหุ้นไทยได้

สำหรับ Fund flow ที่กลับมาขายสุทธิในเดือน มี.ค. 67 หลังจากเดือน ก.พ.67 กลับมาขายสุทธิ โดย 3 เดือนที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากความผันผวนของปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ยังพึ่งพาการส่งออกอยู่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามการที่ Fund flow จะกลับมาเป็นบวกได้นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะต้องดีต่อเนื่อง การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเกิดความน่าสนใจ และดึงดดูดนักลงทุนต่างชาติให้กลับเข้ามาลงทุนได้


สำหรับการเปิดรับสมัครผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯคนใหม่ ว่ายังคงมีการเปิดรับสมัครบุคคลที่สนใจจนถึงวันที่ 30 เม.ย.67 ซึ่งเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถ และมีวิสัยทัศน์ที่ดีที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ด้าน นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกปี 2567 เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวลง แม้ว่าจะยังไม่เข้าสู่สภาวะถดถอย แต่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ลดลงตามที่ธนาคารกลางหลายแห่งคาดหวัง ทำให้ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของแต่ละประเทศแตกต่างกันไป โดยตัวเลขของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุด การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น และ อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ มีส่วนทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงช้ากว่าที่นักวิเคราะห์คาด แม้เฟดได้ประกาศว่ายังมีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ผู้ลงทุนกังวลว่าเฟดอาจชะลอการลดดอกเบี้ยออกไป ส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดีหุ้นขนาดกลางและเล็กได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น

สำหรับเดือน มี.ค.2567 การประชุมสองสภาของจีนได้ตั้งเป้าการเติบโต GDP ในปี 2567 อยู่ที่ 5% อีกทั้งทางการจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือน มี.ค. เพิ่มเป็น 50.8 จากระดับ 49.1 ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 ซึ่งเป็นช่วงหลังยกเลิกมาตรการคุมเข้ม Covid-19 ซึ่งการกลับมาเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะยิ่งสนับสนุนให้การส่งออกสินค้าและบริการของไทย รวมถึงการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น โดยนักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ราคาหลักทรัพย์กลุ่มดังกล่าวให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด


สำหรับภาะวตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 SET Index ปิดที่ 1,377.94 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปรับลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ กลุ่มการเงิน และ กลุ่มทรัพยากร

มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 42,782 ล้านบาท ลดลง 30.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหลังจากซื้อสุทธิในเดือนก่อนหน้า โดยในเดือนมี.ค.2567ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 41,238 ล้านบาท ทำให้ใน 3 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 68,862 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 23

Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 อยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.5 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 3.30% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.23%

ในเดือนมีนาคม 2567 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 499,897 สัญญา เพิ่มขึ้น 26.9% จากเดือนก่อน

นายศรพล ยังกล่าวถึงมูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ โดยเฉพาะใกล้สู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ การซื้อขายในตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวลดลงราว 20% เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปกติในทุกๆปีที่ใกล้เทศกาลสงกรานต์มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยจะลดลง.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก