รฟท.ครบรอบ 127 ปี เดินหน้ายกระดับรถไฟไทย

กรุงเทพ 26 มี.ค. – การรถไฟฯ จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 127 ปี รถไฟไทยอุดมสุข เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับการให้บริการขนส่งทางรางของไทย


นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 127 ปี โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการรถไฟฯพร้อมด้วยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างการรถไฟฯ เข้าร่วมงาน เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกิจการรถไฟให้แก่ปวงชนชาวไทย โดยมีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 19 รูป เปิดกรวยดอกไม้สด ถวายพระราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน อดีตผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

จากนั้น นายนิรุฒ เดินทางไปสักการะบวงสรวงอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงที่สร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดเดินรถไฟหลวงสายแรกในสยาม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2439 เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา เวลาต่อมาได้เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ขบวนที่ 901 เส้นทางประวัติศาสตร์จากสถานีกรุงเทพ – อยุธยา ซึ่งเป็นรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้


นอกจากนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้เป็นประธานในพิธีมอบโล่และประกาศนียบัตร ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานครบ 25 ปี พร้อมแหนบที่ระลึก รางวัลพนักงานดีเด่นประจำปี 2566 และรางวัลล้อปีกรถไฟเกียรติยศ ชั้น 1, 2 และ 3 เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่องค์กร ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการรถไฟ พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยว่า การรถไฟฯ มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดัน และขับเคลื่อนภารกิจเพื่อให้การขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตามที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญ ส่งเสริม และสนับสนุนการลงทุนพัฒนาระบบราง ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ

ทั้งนี้ จากการดำเนินงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้ผลักดันพัฒนาโครงการต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น จนสำเร็จเป็นรูปธรรมในหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางให้ประสบความสำเร็จตามแผน การขับเคลื่อนการลงทุนรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อย่างต่อเนื่องอีก 7 เส้นทาง การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ การพัฒนาระบบการจองตั๋วโดยสารและชำระค่าตั๋วโดยสารให้ครบวงจร การพัฒนาแอปพลิเคชันตารางเดินรถ (SRT TIMETABLE) การพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามขบวนรถ (TRAIN TRACKING SYSTEM) การเดินรถท่องเที่ยวเพื่อให้บริการแก่พี่น้องประชาชน เพื่อต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ พัฒนาพื้นที่สายทางและสถานีรถไฟทั่วประเทศให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนใกล้เคียงพื้นที่รถไฟให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เกิดความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ชุมชน ท้องถิ่นเกิดการกระจายรายได้สู่คนในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโต และเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตตามไปด้วยอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังมีการดูแลทางสังคม เช่น การจัดโครงการ Doctor Train ที่เป็นการนำคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีชื่อเสียงของประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ทำการตรวจ รักษา ดูแลพี่น้องคนรถไฟ และพี่น้องประชาชน และรักษาอย่างต่อเนื่องผ่านระบบ Tele Med หรือ VDO Conference ในด้านของเยาวชน การรถไฟฯ ร่วมกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำน้องๆ ผู้พิการทางสายตาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ การจัดโครงการนำเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทัศนศึกษาทางรถไฟ การสนับสนุนโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้โดยสนับสนุนตู้โดยสารในการเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ และร่วมกับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ นำคณะนักเรียนผู้พิการและด้อยโอกาสนั่งรถไฟไปศึกษาประวัติศาสตร์ ผ่านแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในเส้นทางต่าง ๆ อาทิ กรุงเทพ – กาญจนบุรี กรุงเทพ – ฉะเชิงเทราให้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึง การจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนกับการรถไฟฯให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตัวอย่างที่กล่าวมานี้จะเห็นว่า การรถไฟฯ มุ่งมั่นในการยกระดับพัฒนาการทำงาน และการให้บริการ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของบริบทแวดล้อมภายนอก ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้เกี่ยวข้อง หรือ Stakeholders ทั้งหมด ตามวิสัยทัศน์ “เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อและการขนส่งที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย”


ท้ายนี้ การรถไฟฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการระบบขนส่งทางรางของไทย ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในทุกภูมิภาค สามารถอำนวยความสะดวกสูงสุดต่อการเดินทาง ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับ ประชาชน และการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศ สามารถแข่งขันทัดเทียมกับอาณาประเทศอย่างยั่งยืน.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย

pile of durians

กัมพูชาห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้จากไทยแล้ว

พนมเปญ 17 มิ.ย.- มาตรการห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากไทยเข้าไปในกัมพูชา เริ่มมีผลแล้วในวันนี้ หลังจากครบกำหนดเส้นตายที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา รายงานอ้าง พล.ท.สก เวสนะ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาว่า ขณะนี้จุดผ่านแดนทุกด่านในกัมพูชาได้ห้ามการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดจากประเทศไทยเข้ากัมพูชาแล้ว ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเนื้อหาเดียวกันตามที่ พล.ท.สก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับซินหัว แขมร์ไทมส์ ระบุว่า การยื่นคำขาดของรัฐบาลกัมพูชาให้ไทยเปิดด่านภายในเวลา 24 ชั่วโมง ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ผักและผลไม้ของไทยทั้งหมดไม่สามารถข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชาได้ เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้การคุกคามและดูหมิ่นของกองทัพไทย หลังจากสถานการณ์บริเวณชายแดน 2 ประเทศตึงเครียด โดยเกิดจากฝ่ายไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เข้มคุมชายแดน

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เพิ่มความเข้มแนวชายแดน ลาดตระเวนทั้งพื้นดิน น้ำ อากาศ ตลอด 24 ชม. ขานรับมาตรการป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย หลังกองกำลังบูรพา ยกระดับการควบคุม ทหารหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 เพิ่มความเข้มตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จัดกำลังพลออกลาดตระเวนทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณพื้นที่คลองลึก คลองพรหมโหด คลองน้ำใส เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย สอดรับกองกำลังบูรพายกระดับควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในเมืองปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 17 มิ.ย.68 เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย

ชายแดนช่องจอมลุ้นนำเข้าผัก-ผลไม้ไทยปกติ

สุรินทร์ 17 มิ.ย. – ชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ขณะนี้แม้จะยังไม่มีสัญญาณจากทางการไทยว่าจะกลับมาเปิดด่านชายแดนตามปกติ แต่บรรดาผู้ค้าตลาดชายแดนยังหวังทั้งสองฝ่ายจะไม่มีมาตการกีดกันการค้าเพิ่ม ซ้ำเติมผลกระทบที่หนักอยู่แล้วในปัจจุบัน ประตูจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกปิดเป็นระยะแบบนี้ตามมาตรการกดดันกัมพูชา ครบ 1 สัปดาห์แล้ว หลังทางการไทยลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่านเหลือเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละ 7 ชั่วโมง จากเดิมเปิดทุกวัน วันละ 16 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าช่องจอมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ล่าสุดต้องลุ้นหนักขึ้นไปอีก หลังวานนี้ (16 มิ.ย.) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขู่ว่าจะห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้ไทย หากไทยไม่กลับมาเปิดด่านตามปกติ ทำให้ผู้ค้าผัก-ผลไม้ในตลาดชายแดนช่องจอม วิตกอย่างหนัก อย่างแม่ค้าชาวจันทบุรีคนนี้ปักหลักค้าขายผลไม้ที่ช่องจอมมา 12 ปี การลดจำนวนวันและเวลาเปิดด่าน ยอดขายวันละ 40,000 บาท […]