กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การบริหารจัดการท่าเรือร้าง โดยกรมเจ้าท่าเป็นผู้จัดสร้าง
กรมธนารักษ์พร้อมทบทวนกฎเกณฑ์การให้เช่า
เพราะหากค่าเช่าค่อนข้างสูง อาจทำให้ไม่มีใครสนใจมาใช้บริการท่าเรือ
นายพชร กล่าวว่า จากข้อกำหนดอัตราผลตอบแทนจากมูลค่าทรัพย์สินจัดให้เช่า
ในอัตราร้อยละ 3-4 ของมูลค่าทรัพย์สินต่อปี ประกอบด้วย ค่าเช่าร้อยละ 2-3
ของมูลค่าทรัพย์สินต่อปี และค่าธรรมเนียมร้อยละ 1 ของมูลค่าทรัพย์สินต่อปี
ยอมรับการพัฒนาท่าเรือของกรมเจ้าท่าใช้วงเงินงบประมาณค่อนข้างสูง หากใช้มูลค่าทรัพย์สินเป็นหลักในการกำหนดอัตราค่าเช่าและค่าธรรมเนียม
จะมีอัตราสูงกว่าการใช้ประกอบการเชิงพาณิชย์
กรมธนารักษ์จึงได้ปรับลดอัตราค่าเช่าและค่าธรรมเนียม กรณีการจัดให้เช่าท่าเรือเชิงพาณิชย์ในอัตราต่ำกว่าหลักเกณฑ์มาตรฐานที่เรียกเก็บ
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการท่าเรือที่ถูกทิ้งร้าง ส่วนกรณีการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการ
เรียกเก็บผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 0.3 ของมูลค่าทรัพย์สินต่อปี
รวมกับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 5 (กรณีมีรายได้เกินจุดคุ้มทุน) ลดลงจากหลักเกณฑ์ปกติร้อยละ 90
สำหรับกรณีการเปิดประมูลให้เอกชนเข้าบริหารจัดการ
จะเรียกเก็บผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 1.5 ของมูลค่าทรัพย์สินต่อปี รวมกับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 5
(กรณีมีรายได้เกินจุดคุ้มทุน) ลดลงจากหลักเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 50-60
ปัจจุบันมีท่าเรือสาธารณะบางแห่ง สามารถนำพื้นที่บางส่วนของท่าเรือสาธารณะมาเปิดประมูลหาผู้ลงทุนพัฒนาและบริหารจัดการในเชิงพาณิชย์
เพื่อให้ได้ผู้บริหารจัดการท่าเรือที่มีศักยภาพและช่วยลดภาระงบประมาณของภาครัฐ ในการดูแล
บำรุงรักษา และซ่อมแซมท่าเรือสาธารณะ ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงได้แจ้งให้กรมเจ้าท่าขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี
รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขระเบียบและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถนำพื้นที่บางส่วนของท่าเรือสาธารณะที่กรมเจ้าท่าก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานคร
ปริมณฑล และในภูมิภาคทั้งหมดมาดำเนินโครงการพัฒนา.-สำนักข่าวไทย
