กรุงเทพฯ 8 ก.พ.-Krungthai COMPASS คาดกนง.ยังไม่ปรับทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินในระยะอันใกล้ เหตุเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัว ด้าน SCB EIC ฟันธง กนง.ไม่ลดดอกเบี้ยในปี 67
จากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) วานนี้ ( 7 ก.พ.67 ) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงกว่าคาด ซึ่งในปี 2567 ประเมินว่าจะเติบโตในช่วงร้อยละ 2.5-3.0 ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงกว่าที่มองไว้เดิม ทั้งนี้ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำในปัจจุบันไม่ได้บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 มีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำใกล้เคียงร้อยละ 1
Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย มองว่า กนง. ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น แต่ประเมินว่าจะยังไม่ปรับทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินในระยะอันใกล้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางขยายตัว และ กนง. จำเป็นต้องรอความชัดเจนของข้อมูลต่างๆในระยะต่อไป ขณะที่มีความเสี่ยงที่อาจกดดันให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นได้ในอนาคต อีกทั้งยังต้องติดตามการปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักในต่างประเทศ
“ประเมินว่า กนง. จะยังไม่เร่งปรับทิศทางของการดำเนินนโยบายการเงินและจำเป็นต้องรอความชัดเจนของข้อมูลต่างๆในระยะต่อไปเนื่องจากเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางขยายตัว ขณะที่มีความเสี่ยงซึ่งอาจกดดันให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นได้ในอนาคต อีกทั้งยังต้องติดตามการปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักในต่างประเทศ นอกจากนี้ กนง. ยังสื่อสารว่าการลดดอกเบี้ยไม่สามารถแก้ “ปัญหาเชิงโครงสร้าง” ได้ คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อไป ส่วนการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นมีความเป็นไปได้มากขึ้นและจำเป็นต้องติดตามท่าที กนง. และพัฒนาการทางเศรษฐกิจต่อไปอย่างใกล้ชิด” Krungthai COMPASS ระบุ
ด้านศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% ไว้ตลอดปี 2567 โดยมองว่า กนง. จะพิจารณาแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไปข้างหน้าในระยะปานกลางถึงระยะยาว (Forward looking) มากกว่าตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้ว (Backward looking) หากแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทยในระยะต่อไปยังเป็นไปตามที่ SCB EIC เคยคาดการณ์ไว้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ต่อเนื่องใกล้เคียงระดับศักยภาพที่ 3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะทยอยปรับสูงขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ได้ กนง. จะยังมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว (Neutral rate)
ตามที่ กนง. สื่อสารไว้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการดูแล SMEs และครัวเรือนกลุ่มเปราะบางที่ภาระหนี้สูงและรายได้ฟื้นตัวช้า กนง. ยังมีแนวโน้มสนับสนุนการใช้มาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน มากกว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นมาตรการแบบครอบคลุม และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี หากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปเติบโตชะลอลงกว่าประมาณการที่ กนง. ประเมินไว้ตามผลประชุมครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบต่อเนื่องและกระจายไปในสินค้าและบริการเป็นวงกว้างมากขึ้น กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชัดเจนขึ้น อาจส่งผลให้ กนง. ต้องเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง เพื่อให้นโยบายการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่อาจไม่เป็นไปตามคาดได้ -511 – สำนักข่าวไทย