ตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ก.พ.- SET Index เดือนมกราคม ปรับลดลง 3.6% ขณะที่ 4 วันทำการของเดือนกุมภาพันธ์มี fund flow ไหลกลับเข้ามา
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2567 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายออกจากตลาดหุ้นไทย จากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2566 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ซึ่งส่งผลไปถึงการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 2566 และหากพิจารณา fund flow ของผู้ลงทุนต่างชาติในช่วง 10 ปีย้อนหลังพบว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าเฉพาะในปีที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี แม้ว่าเงินทุนต่างชาติจะไหลออกแต่สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นต่างประเทศเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ยังคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต นอกจากนี้ หากพิจารณาจากอัตราส่วน Price to Book (P/B ratio) ของ SET Index ยังค่อนข้างต่ำ ขณะที่อัตราตอบแทนจากเงินปันผลของ SET ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.24% ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในตลาดหุ้นไทยปรับลดลงจากต้นปี 2566 จากปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 SET Index ปิดที่ 1,364.52 จุด ปรับลดลง 3.6% จากเดือนก่อนหน้า โดยให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาค กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มทรัพยากร กลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอาหาร และ กลุ่มเทคโนโลยี
ส่วนมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 47,111 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 34.6% ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหลังจากที่ซื้อสุทธิในเดือนก่อนหน้า โดยในเดือนมกราคม 2567 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 30,870 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21
Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ระดับ 15.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.9 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.7 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ระดับ 3.24% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.31%
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนมกราคม 2567 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 404,435 สัญญา ลดลง 17.3% จากเดือนก่อน สาเหตุสำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures
สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ หุ้นรีบาวด์ขึ้นมาระยะหนึ่ง คาดว่าเป็นผลมากจากการที่เฟดส่งสัญญาณชัดแล้ว คนก็จะเปลี่ยนไปหาประเด็นอื่น บ้านเราก็มีหลายปัจจัยสนับสนุน เช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปี 2567 ขยายตัว 4.4% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 3.6% เนื่องจากอุปสงค์ในต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน ปัจจัยหลักก็คือนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี ประกอบกับนโยบาย Visa Free ในเดือนมีนาคมก็นับว่าเป็น Sentiment ที่ดี และมูลค่าหุ้นไทยตอนนี้ราคาไม่แพง Price to Book ไม่เยอะ ถ้า Earning กลับมาก็น่าจะมีไซส์ที่ดี
“นักลงทุนคาดหวังว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 5-6 ครั้ง แต่ในเดือนมกราคม ประธานเฟดได้บอกชัดเจนว่า ก่อนเดือนมีนาคมจะไม่มีการลดดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งทำให้ในเดือนมกราคมเกิดการขายออก แต่หลังมีความชัดเจนมากขึ้น ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ก็ทำให้ fund flow เริ่มกลับมาในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาอีกสักระยะ เพราะในตลาดทุนไทย fund flow เพิ่งไหลกลับเข้ามาเป็นวันที่4 จึงขอจับตามองอีกสักระยะ” นายศรพล กล่าว
นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึง เงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่า เกิดจากกาปัญหาต่างๆได้คลี่คลายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่กำลังจะกลับเข้ามา เช่น เรื่องจีโอโพลิติกส์ การเปลี่ยนเทรนด์อัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นข่าวดี แต่ว่าเรื่องจีโอโพลิติกส์เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เป็น K-Shape ซึ่งคิดว่ายังมีเรื่องให้ต้องกังวลอีกหลายเรื่อง แต่เรื่องต่างๆดูคลี่คลายลงเรื่องๆ ฉะนั้นตนเองจึงมองว่า sentiment ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้าอัตราดอกเบี้ยค่อยๆลดลงในตลาดโลก ก็เชื่อว่า จะทำให้เงินไหลกลับเข้ามาในประเทศมากขึ้น ประกอบกับในภาคธุรกิจที่มีการเจริญเติบโต การท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศที่โตขึ้นจะช่วยให้ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นแต่การฟื้นตัวของเรายังไม่ได้ฟื้นเท่าๆ กันในทุก factor ยังมีเร็วมีช้า
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังต้องติดตามข้อมูลจากต่างประเทศให้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันซึ่งถูกกำหนดโดยสภาวะจีโอโพลิติกส์ อย่างไรก็ดีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยจะน้อยลงสภาพคล่องก็จะดีขึ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จ้างบริษัทที่ปรึกษา บริษัท โอลิเวอร์ ไวแมน เข้ามาดูระบบการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า วันนี้จะได้ฟังข้อมูลสรุปซึ่งเป็นข้อมูลไฟนอลครั้งแรก จากนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะไปอัพเดทให้กับ stakeholder industry กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กตล. ก่อนสู่กระบวนการ เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
นายภากร ยังเปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบโปรแกรมเทรด ที่มีผู้ส่งให้ตรวจสอบแล้ว 5 เคส ไม่พบว่ามีเคสใดที่โปรแกรมเทรดทำให้เกิด naked short sell ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังเปิดรับและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากใครสงสัยเคสใดสามารถส่งมาให้ตรวจสอบได้ แต่อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถตรวจสอบสิ่งที่อยู่นอกขอบเขตของเราได้ เช่นการโอนหุ้นนอกตลาด เป็นต้น
ส่วนการประชุมบอร์ดหลาดหลักทรัพย์ชุดใหม่นัดแรกเมื่อวานนี้(6ก.พ.) เบื้องต้นมีนโยบาย และความสนใจต่างๆ ที่คณะกรรมการที่เข้ามาใหม่ 5 คน ให้แนวทางมาแล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวม จะมีการนำมาอัพเดทเร็วๆ นี้ .-517-สำนักข่าวไทย