กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. –กรมบัญชีกลาง มุ่งบริหารการใช้จ่ายงบปี 67 แนะหน่วยงานรัฐ เปิดประมูล เตรียมพร้อมร่าง TOR จัดซื้อ จัดจ้าง เร่งอัดฉีดงบลงทุนสู่ระบบ มุ่งปิดช่องโหว่ยื่นประมูลออนไลน์ เตรียมระบบจ่ายเงินเดือน 2 รอบ
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2567 อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา มีกรอบวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท แบ่งรายจ่ายประจำ 2.532 ล้านล้านบาท รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง 118,361 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน 717,722 ล้านบาท รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 118,320 ล้านบาท กรมบัญชีกลาง จึงขอให้หน่วยงานของรัฐเตรียมขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างเอาไว้ก่อน เช่น คุณสมบัติผู้เสนอราคา เงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง รูปแบบและเนื้อหาของสัญญา (TOR) เพื่อเตรียมลงนาม การเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป รองรับการจัดซื้อจัดจ้างอย่างรวดเร็ว และสามารถก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายเงินได้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2567 สอดคล้องกับนโยบายเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาล
กรมบัญชีกลางให้ความสำคัญ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-GP) และอุดช่องโหว่ ไม่ให้มีผู้อื่นเข้าถึงข้อมูลในระบบ e-GP ได้ เช่น รายชื่อผู้เสนอราคา ราคาของผู้เสนอราคา รวมทั้งไม่ให้ผู้ใดสามารถซื้อข้อมูลการเสนอราคา e-bidding จากเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางได้ พร้อมป้องกันการทุจริตผ่านโครงการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) และโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) รวมทั้งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรป
สำหรับด้านสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ในปีงบประมาณ 2567 กรมบัญชีกลางได้ ปรับรอบการประมวลผลข้อมูลการขึ้นสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาล จากเดิม ขึ้นสิทธิทุก 15 วัน เป็นทุก 7 วัน (ทุกวันอังคาร) เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง และได้กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายา ในกลุ่มลดไขมัน และน้ำตาเทียม ซึ่งมียาสามัญ ทดแทนยาต้นแบบได้เพื่อเป็นการบริหารค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้อยู่ภายในกรอบวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร และยังให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุ และการบริบาลฟื้นสภาพระยะกลาง (IMC) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิ
อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลัง ได้ปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2566 และพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการจ่ายเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารซึ่งไม่เป็นข้าราชการ มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา จึงเตรียมพร้อม ระบบ e-payroll ให้แก่ข้าราชการ ผู้เลือกรับเงินเดือน 2 รอบครั้งแรก ในวันที่ 15 มกราคม 2567
สำหรับการจ่ายเงินสวัสดิการสังคมตามโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงินค่าเดินทาง ขนส่งสาธารณะ การจ่ายตรงเงินสวัสดิการสังคม เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยความพิการ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เงินค่าป่วยการ อสม. กรมบัญชีกลาง มุ่งดูแลทั้งข้าราชการและประชาชนผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่างๆ ให้ครอบคลุมทุกด้าน .-515 – สำนักข่าวไทย