กาญจนบุรี 27 ธ.ค.- “สุรพงษ์ ” เปิดทดลองใช้มอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เพื่ออำนวยความสะดวก ความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 พร้อมขับเคลื่อนนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน”ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากเดิมใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที เหลือเพียง 30 นาที อีกด้วย
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ บริเวณด่านกาญจนบุรี ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง (ทล.) ได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางและขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตกของประเทศ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยบนเวทีโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ในวันนี้ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก – ด่านกาญจนบุรี พร้อมแล้วที่จะเปิดทดลองให้ประชาชนได้ใช้บริการ ตั้งแต่วันนี้ (27 ธันวาคม 2566) เวลา 11.00 น. ไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 24.00 น. โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่จะสามารถเดินทางในช่วงปีใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นับเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงคมนาคมมอบให้พี่น้องประชาชน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี
“ขอขอบคุณ ทล. หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี จนสามารถเปิดทดลองใช้บริการได้ในวันนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเดินหน้าพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้มีประสิทธิภาพสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนต่อไป” นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เป็นหนึ่งในโครงข่ายสำคัญตามแผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระยะ 20 ปี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการเดินทาง การขนส่งและโลจิสติกส์ เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ภาคตะวันตก ขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน มีลักษณะเป็นทางหลวงพิเศษที่มีมาตรฐานสูง ขนาด 4 – 6 ช่องจราจร มีการควบคุมการเข้า – ออกอย่างสมบูรณ์ (Fully Controlled Access) ทำให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วได้อย่างปลอดภัย มีจุดเริ่มต้นที่จุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด้านตะวันตก กับถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณทางแยกต่างระดับบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ผ่านพื้นที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี และไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี – อำเภอพนมทวน) อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร รวมถึงมีทางแยก (Spur Line) เชื่อมต่อกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 สายนครปฐม – ชะอำ ที่จุดตัดกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ระยะทาง 9.8 กิโลเมตร มีทางแยกต่างระดับ 8 แห่ง เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับโครงข่ายทางหลวงสายสำคัญตลอดแนวเส้นทาง พร้อมด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง 8 แห่ง ซึ่งรองรับทั้งเงินสดและระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการจราจร ระบบอำนวยความสะดวก และระบบอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันโครงการฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 17 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 8 สัญญา มีความก้าวหน้าโดยรวมร้อยละ 95.96 ส่วนงานออกแบบและก่อสร้างด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง พร้อมติดตั้งงานระบบ มีความก้าวหน้าโดยรวม ร้อยละ 32.06 โดยมีเป้าหมายให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการตลอดเส้นทาง ช่วงปลายปี 2567 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ โดยเริ่มเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางภายในปี 2568 และในวันนี้ ทล. พร้อมแล้วที่จะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรีช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2566 – 3 มกราคม 2567 ตั้งแต่ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ถึงด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กิโลเมตร เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 323 (ถนนแสงชูโต) และช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากเดิมใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที เหลือเพียง 30 นาที อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย-513